วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เปิดกระเป๋า..... เฉหมดเปลือกของใช้ส่วนในกระเป๋าเดินทาง

                เวลาเราเดินทางไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ เราก็ควรจะต้องเตรียมของใช้ส่วนตัว  โฟมล้างหน้า แปรงสีฟัน ยาสระผม ฯลฯ วันนี้ผมจะมาแนะนำเรื่องราวๆที่น่าสนใจกันครับ


กระเป๋าเล็กสำหรับใส่ของใช้ส่วนตัว
เวลานำแชมพู ยาสระผม ยาสีฟัน แป้งเตรียมไปสำหรับใช้ในการเดินทาง ควรหากระเป๋าใส่แยกต่างหาก ไม่ควรเอาขวดแชมพู หรือครีมอาบน้ำ ไปวางลงปะปนกับเสื้อผ้า นะครับเพื่อป้องกันฝาขวดเปิดแล้วหกเลอะเทอะเสื้อผ้าครับ  และควรเป็นกระเป๋าพลาสติกมากกว่าผ้า  ที่ไม่ใช่ผ้าเพราะว่าเผื่อว่าบางทีเราหยิบไปในห้องน้ำ และน้ำกระเด็นโดนกระเป๋า ไม่ได้ไม่เกิดปัญหาอับชื้นครับ
หรือถ้าจะให้ดี  ควรเป็นกระเป๋าพลาสติกแบบมีห่วงแขวน เพราะบางทีห้องน้ำ จะมีตะขอให้แขวนได้ ซึ่งสะดวกกว่าไปวางตามอ่างล่างหน้าน่ะครับ 


ลองหาขวดแบ่งแบบ Traveller set
                  เดี่ยวนี้หลายยี่ห้อมีการทำเป็นขวดเล็กๆ สำหรับการท่องเที่ยวมาให้ชุดเลือกซื้อกันมากมายไม่เหมือนสมัยก่อนเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวสองสามวัน หรือคุณอาจจะไปซื้อขวดพลาสติกเป็นเซ็ท ตามร้าน Daiso, ร้านทุกอย่าง 20 บาท  แต่ขอให้ระวัง ผมเคยซื้อมาใช้สองครั้ง ปรากฏว่า พอไปถึงปลายทางพบว่าแชมพูหกออกมาเนื่องจากขวดพลาสติกแตก  อาจจะต้องเลือกดูนิดนึงว่าคุณภาพพลาสติกดีรึเปล่าวเพราะส่วนใหญ่เป็นแบบเปราะแตกง่าย และชอบมีปัญหาตรงฝาปิดมักจะหวาน ฝาปีนเกลียวน่ะครับ

       และสำหรับท่านที่ซื้อครีมอาบน้ำแบบขวดเล็ก ลองดูเรื่องฝาเปิดปิดด้วยนะครับ ผมเคยไปซือครีมอาบน้ำยี่ห้อขวดเล็ก แต่ลืมสังเกตเรื่องฝาเปิดปิด  พอไปเที่ยวสิงค์โปร์ เปิดปิดใช้อาบน้ำแค่สองวัน ข้อพับพลาสติกขาดครับ 


ซื้อแบบชนิดซองมาใช้
       ระยะหลังมานี้เวลาไปเที่ยว ผมชอบซื้อยาสระผมแบบซองไปใช้ ซองละ 2-3 บาทเอง  แถมมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือก ทั้งรีจอยซ์,ซันซิล,แพนทีน,โดฟ  (โฆษณาให้เสร็จสรรพ) สะดวกดีครับ ใช้แล้วก็ทิ้ง
      เวลาไปเจอร้านขายของชำที่มีขายก็จะซื้อเก็บไว้ทีละ 5-10 ซอง  และผมก็ใช้ครีมทาหน้าแบบซองครับ  
        ครีมทาหน้าเองก็มีแบบซองออกมาเยอะ ทั้งพอนด์ส  โอเลย์  เขามีรุ่นที่เป็น SPF 21 ด้วยก็เลย เอาไปใช้ไปไต้หวันช่วยกันแดด โอเคครับ และ เบากระเป๋าไปเยอะเลยครับ 


เตรียมถุงพลาสติกไปสำหรับเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว
        จำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่พักใน Hostel หรือ Dorm room ที่มีเพียงตู้ล็อคเกอร์เก็บของ จำเป็นจะต้องเก็บเสื้อผ้าทั้งหมดไว้ในกระเป๋า คุณคงไม่อยากให้เสื้อผ้าตัวเก่า ไปปะปนเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ใส่ จนมีกลิ่นอับ  ดังนั้นเวลาคุณใส่เสื้อผ้าตัวไหนไปแล้วจะได้ใส่ถุงพลาสติกแยกเก็บไว้

การพกยาขึ้นเครื่องบิน
         สำหรับท่านที่ไม่ค่อยสบาย (แต่ถ้าไม่สบายมากก็ไม่ควรเที่ยวนะครับ )หรือมีโรคประจำตัว สามารถพกยาไปได้ครับ  แต่ควรจะมีฉลากยาภาษาอังกฤษ เพื่อทางเจ้าหน้่าที่จะได้ตรวจสอบว่าเป็นยาอะไร มีส่วนผสมอะไร   และหากกรณีฉุกเฉิน คุณต้องการที่จะซื้อยาเพิ่มในต่างประเทศ  คุณจะได้นำฉลากยาเดิมให้กับร้านขายยาดูได้ว่า มียี่ห้อเดิมไหม หรือมียี่ห้ออื่นที่มีส่วนผสมใกล้เคียงกัน   
         ยาบางชนิดที่มีความรุนแรงหรือมีฤทธิ์กล่อมประสาท ส่วนผสมบางอย่าง อาจจะเป็นยาต้องห้ามในบางประเทศนะครับ 
ดังนั้นขอให้ลองสอบถามกับคุณหมอให้ดีก่อนนะครับ
        และคุณควรพกในปริมาณที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว ไม่ใช่ว่าไปเที่ยวสามวัน  พกยาไปทำไม 10 แผงอันนั้นคงต้องตอบคำถามกันนิดนึงนะครับ

อีกนิดนะครับ
        สำหรับท่านที่ไม่สบาย  แล้วต้องกินยาก่อนขึ้นเครื่องขอให้ระวังนิดนึงนะครับ ว่ามีผลต่อการขึ้นเครืองบินรึเปล่าว  เกี่ยวกับความกดอากาศไหม  บางคนกินยาที่มีฤทธิ์แรงมาเพื่อลดน้ำมูก พอเครื่องบินบินขึ้นสูง ปรากฏว่าเส้นเลือดฝอยในจมูกแตก เลือดกำเดาไหลไม่หยุด  ดีที่ว่าเที่ยวบินนั้นมีคุณหมอมาด้วยเลยช่วยหยุดเลือดได้   หรือทานยาไปแล้วคลื่นเหียนอาเจียน ปวดหัวรึเปล่าว

โน้ตบู้ตคุณสามารถพกขึ้นเครื่องได้
        บางท่านไม่แน่ใจว่าจะต้องโหลดไปกับเครือ่งบินหรือว่าพกขึ้นเครื่อง  คุณสามารถพกโน้ตบุ็คขึ้นเครื่องบินได้นะครับ 

ของมีคม ระวังอย่าเผลอพกขึ้นเครื่องนะครับ
         กรรไกรตัดเล็บ  ที่ตะไบเล็บ กรรไกรตกแต่งเล็บ มีดโกนกันคิ้ว  อย่าเผลอพกขึ้นเครื่องไปกับกระเป๋าส่วนตัวของคุณนะครับ  แต่คุณสามารถนำสิ่งของเหล่านี้เข้าไปในกระเป๋าที่จะโหลดไปในเครื่องบินได้  แต่บางอย่างที่เคยเจอก็ไม่น่าพก  แบบว่าเคยมีคนพกมีดโหลดไปกับกระเป๋า ถูกเรียกไปคุย เป็นคุณป้าบอกว่าชอบทานผลไม้เลย พกมีดปอกผลไม้ไว้ตลอด คิดว่าเวลาเครืองบินลงแล้วทัวร์พาไปเที่ยว จะได้ซื้อผลไม้แล้วปอกกินตลอดทาง ไม่คิดว่าจะมีความผิด

         และที่เคร่งครัดที่สุดคือ กฏห้ามนำของเหลว ที่มีขนาดเกิน 100 ML ขึ้่นเครื่องบิน เกิน 10 ขวด
       สำหรับผู้ที่แบกเป้ขึ้นเครื่อง ไม่ได้โหลดกระเป๋าไปกับเครือ่งบิน แล้วต้องพกผ่านเครื่องตรวจ  ขอย้ำว่า เขาดูจากฉลากผลิตภัณฑ์ข้างขวดพิมพ์มาเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ดูตามนั้น  ถึงแม้ว่าของจริงจะเหลือก้นขวด  ก็โดนทิ้งลงถังขยะนะครับ เขาไม่ได้เอาไปชั่งน้ำหนักของเหลือ    ของมีคม มีดสวิสอาร์มี่นี่ระวังนะครับ อย่าเผลอพกขึ้นเครื่องนะครับ
       พูดง่ายๆ คือ ของเหลวต่างๆ คุณจะต้องอยู่ในขวดฉลากที่มีเขียนไว้ข้างขวดไม่เกิน 100 ML ได้ไม่เกิน 10 ขวด แล้วจะต้องรวมอยู่ในซองซิปพลาสติกใสนะครับ  

        คือบางกระทู้  หรือบางคนอาจบอกว่าของบางอย่างอ้อนวอนเจ้าหน้าที่จนยอมให้ผ่านได้  บางคนก็บอกว่าบางสนามบินอาจอนุโลมให้  แต่ผมว่าเรื่องแบบนี้ เราควรเตรียมให้ถูกต้องตามกฏระเบียบไปดีกว่าครับ บางครั้งคุณอาจจะอ้อนวอนจนสามารถผ่านจากสนามบินเมืองไทยได้  แต่ไม่ผ่านในสนามบินต่างประเทศขากลับ โดนทิ้งลงถังขยะนะครับ  แล้วจะมานั่งร้องไห้ เสียใจกันทีหลัง  เราถูกต้องตามระเบียบตั้งแต่ต้นให้สบายใจดีกว่าครับ
         คือซื้อขวดพลาสติกเล็กๆ สำหรับแบ่ง ไม่กี่บาทเองครับ 20-30 บาท แบ่งๆ ใส่ไปเท่าที่เคยเดินทาง  
         หรือแม้แต่การซื้อของจากร้านค้าในสนามบินเอง ก็ให้ระมัดระวัง คนที่โหลดกระเป๋าไปแล้ว ยังไม่ได้เข้าไปที่เกท เดินรอเวลาที่ด้านนอกเกท แล้วไปซื้อของจากร้านค้าที่อยู่ภายในสนามบิน  ปรากฏว่าพอเข้าไปในเกท เจ้าหน้าที่สนามบินไม่ให้ผ่านนะครับ เพราะเจ้าหน้าที่ถือว่าคุณไม่ได้โหลดของเหลวงใส่กระเป๋าเดินทาง  ผมเห็นเป็นไวน์ขวดใหญ่สองขวดแพ็กใส่ซองใสอย่างดี  ทะเลาะกันวุ่นวายเลยครับ


      บางประเทศจะซีเรียสของที่ผลิตมาจากไม้  หรือเนื้อสัตว์นะครับ  มีเพื่อนไปเรียนออสเตรเลีย โดนยึดหวีไม้เพราะเกรงเชื้อโรคติดมากับไม้ครับ  ที่ไต้หวันที่ป้ายประกาศขึ้นชัดว่า ห้ามนำเนื้อสัตว์หรืออาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์เข้ามาโดยเด็ดขาด  มีสุนัขคอยดมกลิ่น  มีค่าปรับแพง เห็นฉายวนอยู่สนามบินหลายรอบมากครับ
       และของบางอย่างที่แตกหักง่าย ให้ระวังเวลาจะขนกลับ  ตอนขากลับจากเวียดนาม เจอฝรั่งคู่หนึ่ง จะให้สายการบินโหลดคฑาไม้แกะสลัก  ซึ่งยาวประมาณไม้กอล์ฟ  คุณสามีฝรั่งพยายามเอาหัวไม้คฑายัดลงในกระเป๋าเดินทาง   แต่ว่าด้ามคฑาโผล่ยาวนอกกระเป๋ามาเกือบเมตร เจ้าหน้าที่เลยไม่ยอมรับโหลดให้  ประมาณว่าให้คุณสามีฝรั่งไปหาถุงใส่ให้มิดชิดกว่านี้

รายละเอียดเพิ่มเติม ลองไปอ่านได้ที่  บอกไว้ละเอียดเลยครับ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก แอร์เอเชียและบางบล็อคนะครับ



ไม่มีความคิดเห็น: