อาหารการกิน
แน่นอนเวลาคุณไปเที่ยวคนเดียว ไม่มีไกด์พาไปตามร้านอาหาร ดังนั้นคุณต้องหาซื้ออาหารด้วยตัวคุณเอง ซึ่งรสชาติก็ตามแต่ละประเทศ จืดบ้าง เค็มบ้าง เปรี้ยวเน้นหวานนำตามแต่ละประเทศ ใครที่ติดใจเฉพาะอาหารไทยรสแซ่บแทบไม่ต้องพูดถึง ไม่มีประเทศไหนแซ่บเท่าบ้านเราแล้วครับ
ถ้าคุณติดการกินส้มตำปลาร้า วันไหนไม่ได้กินอาหารใส่พริกห้าเม็ดแล้วจะหงุดหงิด นี่ขอให้อยู่เมืองไทยเถอะครับ เพราะพริกป่น บางประเทศนี่หายาก จะพกไปทุกที่ก็เกรงว่าอาจจะเจอต.ม.ถามว่าพกพริกไทยแดงไปทำไม
หรือเวลาอยู่บ้าน ทานอาหารได้เฉพาะฝีมือคุณแม่ อาหารอื่นๆ รสชาติไม่ถูกปากจะทานไม่ลง ก็แนะนำจริงๆว่าอยู่บ้านเถอะ ไม่งั้นกลับมาผอมแย่แน่ๆเลย
รักความสบาย
ใครที่เป็นคุณหนู คุณนายม มีคนรับใช้ทำให้หมด แทบไม่เคยถูบ้าน ซักผ้าด้วยตัวเอง อย่าเสี่ยงไปเลยครับ เพราะคุณต้องแบกกระเป๋าเดินทางไกลเป็นกิโลด้วยตัวเอง เดินทางนั่งรถเมลล์ รถไฟฟ้าด้วยตัวเอง ไม่มีรถทัวร์พาคุณส่งไปจนถึงปากทางเข้าพิพิธภัณฑ์นะครับ ไม่เคยยกของหนักไม่เคยแบกเป้
ยกเว้นว่าคุณจะพักโรงแรมห้าดาว แล้วซื้อทัวร์ท้องถิ่นที่ประเทศนั้นอีกก็ว่ากันไปนะครับ
อาย ไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม
แบบว่าหนูเป็นคนขี้อายอ่ะ ไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม คุณก็จะงงงวยหาทางไปไม่ถูกตลอดทริปนั่นแหละครับ เพราะถ้าจะเดินทางด้วยคนเดียว เวลาหลงทางหรือมีข้อสงสัยมีสิ่งเดียวที่คุณทำได้คือถาม ถาม และถามครับ เจอเจ้าหน้าที่มิวเซียม,คนเดินทาง,นักเรียนม.ปลาย.ตำรวจผมถามมาหมดแล้ว อย่ามามัวนั่งเดาเองหรือยืนเอ๋อเป็นชั่วโมง
โดยสำหรับผมคิดว่าการใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเลิศขนาดไหนนั้นไม่ใช่ประเด็นสำหรับการท่องเที่ยวด้วยตัวเองเลยครับ ขอแค่พอสื่อสารได้ รู้จักคำศัพท์พื้นฐานทั่วๆ ไปพอแล้ว ยิ่งคุณพูดแกรมม่าเป๊ะมาก มีไวยากรณ์เยอะๆ ก็ไม่ใช่ว่าคนประเทศอื่นเขาจะเข้าใจนะครับ ยิ่งใช้รูปแบบประโยคยากๆ คำเลิศๆ จะยิ่งงงกันไปใหญ่ สิ่งหนึ่งที่ผมใช้เสมอคือภาษาอังกฤษพื้นฐาน + ภาษากาย
เป็นคนจิตตก มองโลกในแง่ร้าย ขี้่หงุดหงิด
แน่นอนครับ การไปเที่ยวคนเดียวย่อมไม่ได้สวยหรูงดงามตามแบบเทพนิยายไปหมดทุกครั้ง ไม่ได้มีพระเอกขี่ม้าขาวสุดหล่อมาช่วยคุณในเวลาฉุกเฉิน
- ไม่มีคนจัดเตรียมทุกสิ่งอย่างให้คุณ
- คุณอาจจะเจอคนพูดจาไม่ดี
- รอรถเมลล์นานมาก
- เจอแท็กซี่ตะโกนเรียกเชิญชวนขึ้นรถ จนน่ารำคาญ
- ต้องต่อคิวซื้อบัตรยาวนรกแตก
- คนเดินหนีไม่ยอมช่วยตอบคำถาม ถามอะไรก็ไม่มีใครตอบ
ถ้าเจอแบบนี้แล้วคุณหงุดหงิดโมโห,ตกใจ หวาดกลัวควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก็จะทำให้ทริปของคุณหมดสนุกไปครับ สำหรับเจอเรื่องแบบนี้ผมจะคิดเสมอว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าคนในประเทศเขายังโอเคอยู่ก็ถือว่าเรื่องปกติ ให้ทำใจว่า คนทั้งโลกมีทั้งคนดีและคนไม่ดี เจอคนไม่ดีก็คิดว่าเป็นธรรมดาของโลก
ไม่ชอบเรียนรู้วัฒนธรรม กฏระเบียบ
คนประเภทที่ไม่แคร์สังคม ฉันมั่นใจ ฉันอยากจะทำอะไรชั้นก็ทำ กฏระเบียบไม่ต้องสนใจแบบนี้ เที่ยวกับทัวร์ดีกว่าครับเวลามีปัญหาไกด์จะได้เคลียร์ให้ บางประเทศเวลาขึ้นบันไดเลื่อนให้ยืนชิดฝั่งซ้าย บางประเทศให้ยืนชิดฝั่งขวา แต่ถ้าคุณยังยึดติดว่าชั้นจะยืนชิดฝั่งขวาใครจะทำไม คุณอาจโดนคนประเทศนั่นมาสะกิดพร้อมด่านะครับ
กฏระเบียบชอบฝ่า ประเภทวิ่งข้ามถนนไม่รอไฟแดงนี่โดนตำรวจจับมาก็คงไม่คุ้ม หรือเมื่อนั่งรถไฟฟ้าจะมีประเภทที่นั่งสำหรับคนพิการ คนแก่ คนท้องแยกไว้แต่ไม่สนใจกฏระเบียบ ไปนั่งในที่นั่งนั้น อาจจะมีคนท้องถิ่นชี้หน้าด่าคุณได้
ผมเคยเห็นคนสิงค์โปร์สะกิดด่าผู้ชายแขกที่มานั่งในที่นั่งสำรองคนพิการมาแล้ว ถึงว่าที่นั่งอื่นๆจะว่าง แต่บางประเทศเขาถือว่า ถึงแม้จะยังไม่มีคนแก่ขึ้นมาในขบวน คนอื่นๆก็ห้ามนั่งนะครับ
มีหลายคนชอบบอกว่าไม่ได้มาประเทศนี้บ่อยๆ ทำไปเถอะ ไม่มีใครจำได้.......บางเรื่องก็โอเคแต่บางเรื่องถ้าเสี่ยงคุกตารางโดนจ่ายค่าปรับมันไม่คุ้มนะครับ เตือนกันไว้ก่อน
และก็ขอฝากให้เพื่อนที่ไปเที่ยวฝากดูแลมารยาทนิดนึงเพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศไทย ระยะหลังเริ่มมีต่างชาติโพสต์ว่าคนไทยมาด้วยนะครับ
1. คนไทยชอบไปกว้านซื้อเครื่องสำอางที่เกาหลี แบบว่ากวาดซื้อหมดชั้นจนคนอื่นในร้านไม่ได้ซื้อ เห็นเล่าว่า มีกลุ่มสาวไทยหลายๆคน มาถึงเห็นราคาเครื่องสำอางก็ส่งเสียงกรี๊ดกร้าดเสียงดังลั่นร้าน แล้วไปหยิบตระกร้า รีบเดินหยิบสินค้าบนชั้นแบบกวาดยกชั้น คนอื่นๆที่เข้าเดินก่อนในร้านไม่ได้ซื้อของเลย เพราะของที่มีราคาโปรโมชั่น สาวๆกลุ่มนี้กระจายกันไปกวาดหมดเลย ถึงขนาดแย่งซื้อกับคนที่กำลังเลือกซื้ออยู่ก่อน นักท่องเที่ยวคนอื่นต้องเดินออกไปซื้อที่ร้านอื่นอย่างเบื่อหน่าย
2.ลักไก่ในการเข้าแถว คนไทยชอบลักไก่แซงคิว มีครอบครัวหนึ่งคุณพ่อ คุณแม่และลูกสาววัยรุ่นไปซื้อของ ซึ่งมีคิวชำระเงินยาวมาก คุณพ่อเดินไปเข้าแถวโดยที่ไม่ได้ซื้อสินค้าอะไรเลย แล้วคุณแม่กับลูกสาววัยรุ่่นก็เอาตระกร้าไปช็อปปิ้งสบายอารมณ์ พอเสร็จก็เอาตระกร้าใส่สินค้าที่ล้นสามตระกร้า ให้คุณพ่อถือ คนอื่นๆในแถวได้แต่มองตาอย่างโมโหกับพฤติกรรม อันนี้ผมว่าไม่ผิดกฏหรอกนะ แต่มันผิดมารยาทปะแล่มๆ นะครับ
3. ไม่พอใจอะไรคนไทยวีนไว้ก่อน โวยวาย บีบคั้่นพนักงานขายให้ได้ของแถม บางคนพูดนิดๆ ก็ดี แต่ถ้าคุณเล่นมุขโวยวาย บีบคั้นสี่ห้ารอบไม่จบเนี่ย มุขนี้มันเสียชื่อประเทศนะครับ
พื้นฐานเป็นคนมีมาตราฐานการใช้ชีวิตสูงมาก
ถ้าเป็นคนเคยแต่ใช้ชีวิตหรูเลิศห้าดาว ที่นอนต้องสะอาดเนี้ยบ ผ้าปูต้องตึง วันเสาร์อาทิตย์ทานอาหารตามร้านในสยามพาราก้อนเท่านั้น ขับรถหรู นั่งรถไฟฟ้าไม่เป็น.... ไม่แนะนำให้ไปเที่ยวด้วยตัวเองครับ ไม่ว่าจะไปแบบเดี่ยวหรือกลุ่ม
โอเคบางประเทศ อาจจะมีมาตราฐานดี คุณสามารถเลือกโรงแรมระดับหรูได้ การเดินทางทันสมัย แต่ก็ไม่ทุกประเทศหรือทุกพื้นที่ คุณอาจจะต้องนอนกับเตียงนอนที่สะอาดแต่ฟูกไม่นิ่มมาก อาหารที่ขายมีแต่อาหารท้องถิ่น......เวลานั่งรถออกชานเมืองเจอฝุ่นแดงๆ สองข้างทาง
เคยบางคนโพสต์ว่า ตลอดการเดินทางเขาจะกินแต่อาหารที่ขายในร้านอาหารของศูนย์การค้าเท่านั้นเพราะกลัวมาตราฐานความสะอาด....หิวยังไงก็ไม่ซื้อของข้างทางกิน แม้ว่าจะเป็นร้านอาหารใหญ่ ยอมหิวนั่งรถไปกินที่ศูนย์การค้าชั้นนำในเมืองเท่านั้นนั้น เอ่อ..น่าฉงฉานจัง ท่าทางจะอดทนแย่เลย
ควบคุมสติไม่ค่อยได้
ในกรณีนี้ผมหมายถึงเวลาไปไหนมาไหน แน่นอนคุณอาจตกเป็นเป้าหมายของผู้ไม่หวังดีได้ง่าย ดังนั้น บางครั้งต้องมีสติระลึกไว้เสมอว่า ต้องปลอดภัยไว้ก่อน เช่น กินเบียร์แค่ไหนจะไม่เมามาย เที่ยวกลางคืนที่ประเทศนั้นโอเครึเปล่าว ค่ำมืดแล้วก็ควรกลับที่พักไหม ไม่ใช่สนุกสนานรื่นเริงจนดึกดื่นให้เสี่ยงอันตราย บางสถานที่ท่องเที่ยวถ้ามืดมากก็ไม่ควรไป ไม่ใช่มีอารมณ์เปลี่ยวเหงาไปเดินริมถนนกลางดึกให้เสี่ยงมิจฉาชีพ
ผมอยากให้เพื่อนๆ ลองทบทวนให้ดีก่อนจะตัดสินใจไปเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือไปเป็นกลุ่ม เพราะบางคนไปแล้วไม่ Happy กลับมานะครับ เพราะเจอความลำบาก ทานอาหารไม่ได้เลย เหนื่อยกับการเดินไปตามสถานที่ท่องเที่ยว เจอคนพูดจาไม่ดี ซึ่งอันนี้ผมว่าเป็นสไตล์ของแต่ละคน การไปซื้อทัวร์ก็สะดวกสบายดี
ดังนั้น ความสุขของคุณ เงินของคุณ คุณต้องตัดสินใจให้ดีครับ......Have a nice trip
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น