Discovery center of taipei เป็นมิวเซียมอีกแห่งที่ไม่ค่อยมีคนไทยไปเยือนมากนัก ทั้งๆที่อยู่ใกล้กับ Dr. Sun Yat Sen Memorial Hall อาจจะเป็นเพราะว่าที่ไทเป มีมิวเซียมใหญ่ๆ เด่นๆ อีกหลายที่ วันนี้ Bearindyz เลยขอพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชมกันครับ
Discovery Center of Taipei ทั้งอยู่ที่ชั้น 2-3 ของ City hall เดินออกจากสถานี City Hall ได้เลยครับ เดินมานิดเดียวก็ถึงแล้ว บริเวณชั้นล่างของ City hall เป็นลานกิจกรรม Bearindyz มาทั้งสองครั้ง ก็เจอมีการจัดงานทุกที
เดินเข้าประตูใหญ่แล้วด้านขวาจะมีลิฟท์ให้กดขึ้นไปครับ เปิดประตูลิฟท์ออกมาเจอเลย ที่นี่จะเน้นให้ข้อมูลและความรู้เน้นเกี่ยวกับเมืองไทเปเป็นพิเศษ แสดงทั้งวัฒนธรรมเก่าและวัฒนธรรมใหม่ มีภาพของว่าน ว่าน สาวจอมป่วน ที่เคยมีหนังสือภาพของเธอมาขายในเมืองไทย ที่ฮิตอยู่นานมาก มาแสดงที่ผนังกำแพงตรงด้านเข้าเลย
เดินเข้ามาภายใน มีการวัฒนธรรมเพลงและภาพยนตร์ ผมชอบมุมนี้เพราะเขาเปิดเพลงจีนเก่า ที่คุ้นหูให้ฟังครับ อารมณ์รำลึกความหลังวัยเยาว์ และเพราะเห็นมีโปสเตอร์ภาพยนต์ Eat Drink Man Woman ภาพยนตร์ในหัวใจของผมด้วย จำได้ว่าดูเรื่องนี้แล้วหิวมากกกก เพราะในเรื่องตัวละครที่รับบทคุณพ่อเป็นหัวหน้าเชฟ มีฉากทำอาหารจีนแบบสุดยอดมาก
ได้ย้อนอดีตนึกถึงความประทับใจในอดีต เพราะปัจจุบันหนังไต้หวันไม่ค่อยได้รับความนิยมในไทยเท่าไหร่นัก เข้าฉายแบบเงียบๆ เข้าฉายแบบจำกัดโรงฉายมากกก
ชั้นล่างเกี่ยวกับสังคม วัฒนธรรม ธรรมชาติ การรักษาสิ่งแวดล้อม ชั้นบนจะเน้นเรื่องประวัติศาสตร์ บ้านเมือง ผังเมืองในอดีตของไทเป และมีห้องชมภาพยนตร์แบบ 360 องศา ฉายทุกๆ ชั่วโมง ตอนไปมีคุณครูพาเด็กนักเรียนมาชมกันวิ่งเล่นอลหม่านอยู่ในโรงภาพยนตร์เลยครับ
Bearindyz ไปกดใบเซียมซี ที่วัดจำลองมาด้วย พอถึงก้านที่กระบอก ก็มีกระดาษปริ้นท์ออกมาให้เลยครับ ได้ใบที่มีความหมายดีๆ ด้วย ขอให้เป็นตามเถอะครับ สาธุ สาธุ
การเดินทาง
นั่งรถไฟฟ้ามาสถานี City Hall
ค่าเข้าชม ฟรี
เวลาที่ใช้ประมาณ 2 ช.ม. (รวมการดูภาพยนตร์ 360 องศา)
วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2558
วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558
ภาพสวยๆของ Jimmy Liao ที่ Nangang Station
น่าจะเคยผ่านตากับผลงานหนังสือภาพอันแสนโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน ของ Jimmy Liao ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา ที่ดังถึงขนาดถูกทำเอาไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ให้ผู้คนได้โรแมนติกกัน
ซึ่งในเมืองไทยก็นำมาจำหน่ายอยู่หลายเล่ม แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่มีการพิมพ์ซ้ำ ทำให้หาซื้อไม่ได้แล้ว
ภาพของเขามักเป็นภาพแนวแฟนตาซี แต่แอบแฝงด้วยความเศร้าๆ เหงาๆ มีสไตล์เป็นของตัวเอง ความไร้เดียงสา สะท้อนอารมณ์ของผู้คนได้ดี
"สวยปนเหงา เศร้าอย่างงดงาม"
ที่สถานีรถไฟฟ้า Nangang station มีการตกแต่งสถานีด้วยภาพของ Jimmy Liao ไว้ในหลายจุด ทั้งชั้นรอรถไฟ และที่บันไดทางเข้าออกทั้งสองด้านครับ....หากมีโอกาสลองแวะมาถ่ายภาพกันได้นะครับ
ซึ่งในเมืองไทยก็นำมาจำหน่ายอยู่หลายเล่ม แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่มีการพิมพ์ซ้ำ ทำให้หาซื้อไม่ได้แล้ว
ภาพของเขามักเป็นภาพแนวแฟนตาซี แต่แอบแฝงด้วยความเศร้าๆ เหงาๆ มีสไตล์เป็นของตัวเอง ความไร้เดียงสา สะท้อนอารมณ์ของผู้คนได้ดี
"สวยปนเหงา เศร้าอย่างงดงาม"
ที่สถานีรถไฟฟ้า Nangang station มีการตกแต่งสถานีด้วยภาพของ Jimmy Liao ไว้ในหลายจุด ทั้งชั้นรอรถไฟ และที่บันไดทางเข้าออกทั้งสองด้านครับ....หากมีโอกาสลองแวะมาถ่ายภาพกันได้นะครับ
วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558
หยางหมินซาน Yanminshan ดอกไม้สวย อากาศเย็นสุดๆและเดินขาลากกกก
เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่มีคนรีวิวไว้เยอะ ทริปนี้เลยได้มีโอกาสไปเที่ยวเยือน การเดินทางมีหลายวิธีตั้งแต่รถบัสวิ่งตรงไปเลย แต่วิธีที่ Bearindyz ไปคือ นั่งรถไฟฟ้าไปที่สถานี Xinbeitou แล้วเดินออกจากสถานี ข้ามถนนไปรอรถที่ฝั่งตรงข้าม รอสาย 9 ประมาณ 15 นาที ที่นี่ ป้ายรถเมลล์จะมีป้ายแสดงเบอร์รถเมลล์ที่จะเข้ามาถึง ไฮเทคมากก
รถสาย 9 เป็นรถเมลล์เล็ก ใหญ่กว่ารถตู้นิดหน่อย มีเก้านี้นั่งไม่มากดังนั้นจึงโดนยืนไปตามระเบียบ รถจะวิ่งขึ้นเขาไปตามถนนแคบๆ ครับ ขอบอกว่าถนนที่นี่สูงชันและคดเคี้่ยวมาก แถมคุณพี่คนขับก็ชำนาญทางมาก จนขับเร็วเอาการครับ กว่าจะถึงป้ายทางต้องเกร็งตัวมาก เล่นเอาเมื่อยแขนเมื่อยขาพอควร
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงครับ อากาศด้านบนเหมือนอยู่บนดอย (ก็แน่ล่ะสิ....รถขับขึ้นภูเขามาเกือบชั่วโมงนี่นา) เย็นมากกก ต้นไม้แน่นหนามาก ขนาดเดือนมี.ค. ยังเย็นชุ่มชื่น มีมอสขึ้นเกาะตามต้นไม้เต็มไปหมดเลยครับ เสียดายว่าต้นซากุระร่วงหล่นไปเยอะแล้ว เหลือไม่มากนัก แต่ดอกไม้อื่นๆ ก็สวยงามมากครับ
ได้เห็นนาฬิกาดอกไม้ แล้วก็ต่อสายรถเมลล์เล็กไปยังทุ่งดอกคลาร่าครับ ตอนแรกไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวแอบดีใจว่าคนน้อยดีจัง แต่ที่ไหนได้พอต่อรถสาย 131 ตรงจุดจอดรถแถวนาฬิกาดอกไม้ พอถึงภูเขาสูงไปอีกขั้น ถึงได้ไปเจอบรรดานักท่องเที่ยว,และรถยนต์ไปจอดกันหนาแน่นที่ทุ่งดอกคาร่าสีขาว นักท่องเที่ยวไปอยู่ที่นั่นกันหมดเลยครับ เป็นแปลงปลูกดอกคลาร่าสีขาวครับ แต่ที่นี่เขาทำแปลงปลูกลัดเลาะโค้ง สอดรับกับภูมิประเทศ มองไปเห็นสลับกับวิวที่มีลำธาร และภูเขาสลับซับซ้อนสวยงามมากครับ
ด้านบนลมแรง อากาศหนา มีหมอก พูดออกมาเป็นไอเลยครับ แต่ bearindyz ไปในสภาพเสื้อแขนกุดและกางเกงขาสั้น สัมผัสลมเย็นๆเต็มที่ ผสานกับลมแรง พัดมาเย็นมากกกก
เราสามารถตัดดอกไม้ได้ครับ คิดราคาดอกละ 10 เหรียญ แต่ Bearindyz ไม่ได้ตัดกลับมานะครับ
มีร้านขายอาหาร หม้อไฟเปิดบริการนักท่องเที่ยวอยู่แต่ว่าร้านค่อนข้างน้อย แต่ของกินน่าสนใจครับ bearindyz ได้มีโอกาสลองกินหมั่วโถวรสชีสผสมงาดำ รสชาติเยี่ยมมาก กินตอนร้อนๆ ท่ามกลางอากาศหนาว
ข้อแนะนำ
ที่นี่มีเทศกาลดอกไม้หลายครั้ง ลองเข้าไปดูที่เว็บไซด์ได้นะครับ (แต่อาจจะต้องหาในอากู๋ ยากหน่อยนะครับ เพราะเว็บหลักของที่นี่ เขาออกแบบเมนูเข้าใจยาก ต้องหาเปรียบเทียบจากเว็บท่องเที่ยวหลายๆอันหน่อย)
รถสาย 9 เป็นรถเมลล์เล็ก ใหญ่กว่ารถตู้นิดหน่อย มีเก้านี้นั่งไม่มากดังนั้นจึงโดนยืนไปตามระเบียบ รถจะวิ่งขึ้นเขาไปตามถนนแคบๆ ครับ ขอบอกว่าถนนที่นี่สูงชันและคดเคี้่ยวมาก แถมคุณพี่คนขับก็ชำนาญทางมาก จนขับเร็วเอาการครับ กว่าจะถึงป้ายทางต้องเกร็งตัวมาก เล่นเอาเมื่อยแขนเมื่อยขาพอควร
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงครับ อากาศด้านบนเหมือนอยู่บนดอย (ก็แน่ล่ะสิ....รถขับขึ้นภูเขามาเกือบชั่วโมงนี่นา) เย็นมากกก ต้นไม้แน่นหนามาก ขนาดเดือนมี.ค. ยังเย็นชุ่มชื่น มีมอสขึ้นเกาะตามต้นไม้เต็มไปหมดเลยครับ เสียดายว่าต้นซากุระร่วงหล่นไปเยอะแล้ว เหลือไม่มากนัก แต่ดอกไม้อื่นๆ ก็สวยงามมากครับ
ได้เห็นนาฬิกาดอกไม้ แล้วก็ต่อสายรถเมลล์เล็กไปยังทุ่งดอกคลาร่าครับ ตอนแรกไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวแอบดีใจว่าคนน้อยดีจัง แต่ที่ไหนได้พอต่อรถสาย 131 ตรงจุดจอดรถแถวนาฬิกาดอกไม้ พอถึงภูเขาสูงไปอีกขั้น ถึงได้ไปเจอบรรดานักท่องเที่ยว,และรถยนต์ไปจอดกันหนาแน่นที่ทุ่งดอกคาร่าสีขาว นักท่องเที่ยวไปอยู่ที่นั่นกันหมดเลยครับ เป็นแปลงปลูกดอกคลาร่าสีขาวครับ แต่ที่นี่เขาทำแปลงปลูกลัดเลาะโค้ง สอดรับกับภูมิประเทศ มองไปเห็นสลับกับวิวที่มีลำธาร และภูเขาสลับซับซ้อนสวยงามมากครับ
ด้านบนลมแรง อากาศหนา มีหมอก พูดออกมาเป็นไอเลยครับ แต่ bearindyz ไปในสภาพเสื้อแขนกุดและกางเกงขาสั้น สัมผัสลมเย็นๆเต็มที่ ผสานกับลมแรง พัดมาเย็นมากกกก
เราสามารถตัดดอกไม้ได้ครับ คิดราคาดอกละ 10 เหรียญ แต่ Bearindyz ไม่ได้ตัดกลับมานะครับ
มีร้านขายอาหาร หม้อไฟเปิดบริการนักท่องเที่ยวอยู่แต่ว่าร้านค่อนข้างน้อย แต่ของกินน่าสนใจครับ bearindyz ได้มีโอกาสลองกินหมั่วโถวรสชีสผสมงาดำ รสชาติเยี่ยมมาก กินตอนร้อนๆ ท่ามกลางอากาศหนาว
ข้อแนะนำ
- มาวันธรรมดาน่าจะดี คนไม่เยอะ รถเมลล์ไม่เบียดมาก
- เตรียมเสื้อกันหนาวมาหน่อยเพราะอากาศน่าจะเย็นตลอด
- รองเท้าผ้าใบสำคัญมาก เพราะต้องเดินไปชมโน่นชมนี่ ไกลมากทีเดียว ขนาดผมว่าเดินทนแล้วนะ ยังเมื่อยขาต้องพักขาเลย
ที่นี่มีเทศกาลดอกไม้หลายครั้ง ลองเข้าไปดูที่เว็บไซด์ได้นะครับ (แต่อาจจะต้องหาในอากู๋ ยากหน่อยนะครับ เพราะเว็บหลักของที่นี่ เขาออกแบบเมนูเข้าใจยาก ต้องหาเปรียบเทียบจากเว็บท่องเที่ยวหลายๆอันหน่อย)
Xinbeitou เมืองแห่งบ่อน้ำร้อน......เงียบ สงบแต่อบอุ่น
Xinbeitou สถานีสุดสายรถไฟฟ้า เพื่อนๆนั่งรถไฟฟ้ามาจนสุดสาย แล้วจะเจอสถานีส่วนขยาย ให้ต่อขยายไป Xinbeitou ครับ
ที่นี่จะมีไอคอนตั้งเด่นเป็นน้องน้ำพุร้อน ( Bearindyz ขอเรียกเอง) ตั้งไว้สถานีบ่งบอกเลยว่า ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อนจริงๆ
ตอนที่ไปอากาศเย็นๆ แดดไม่แรงเลยยิ่งได้บรรยากาศมาก....พอเดินออกจากสถานีมา (ขอบอกว่า สถานีนี้ออกแบบสถานีเหมือนสถานีรถไฟฟ้าในมาเลเซียมากกกก...) ออกมาปุุ๊บเจอสถานที่ท่องเที่ยวเลย ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์อะบอริจิ้น Hot spring Museum บ่อน้ำร้อนของรัฐบาล จุดชมวิวบ่อน้ำร้อน โรงแรมที่ตั้งอยู่ก็เป็นแนวสปา และมีการต่อน้ำร้อนไปยังห้องพักให้ เพื่อนๆลองไปพักดูแล้วมาบอกได้นะครับ รู้สึกว่ามีหลายระดับราคาตั้งแต่พันๆ ไปถึงคืนละหมื่นเลยครับ
เมืองนี้ท่าทางจะเน้นต้อนรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันเป็นพิเศษ เพราะบางโรงแรมมีพนักงานใส่ชุดกิโมโนออกมาต้อนรับ ป้ายต่างๆ ก็เป็นภาษาญี่ปุ่นเยอะด้วยครับ
ที่นี่ต้นไม้เยอะ ได้บรรยากาศโรแมนติก คนไม่เยอะหนาแน่นเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ยิ่งถ้ามาในช่วงหน้าหนาว แล้วได้แช่น้ำร้อนคงมีความสุขมากๆครับ
สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆกัน เดินชิวๆ รับลมชมบรรยากาศ ได้อีกอารมณ์ครับ
แต่ช่วงเย็นๆ คนเริ่มเลิกงาน ก็มาต่อคิวเข้าบ่อน้ำร้อนกันเยอะพอสมควร ดังนั้นถ้าใครอยากแช่น้ำร้อน แนะนำว่าให้มาช่วงสายๆ บ่ายๆ น่าจะดีกว่าครับ
ป.ล. เดี๋ยวบางสถานที่ ใน Xinbeitou Bearindyz จะเขียนรีวิวแยกไปอีกนะครับ.....
ที่นี่จะมีไอคอนตั้งเด่นเป็นน้องน้ำพุร้อน ( Bearindyz ขอเรียกเอง) ตั้งไว้สถานีบ่งบอกเลยว่า ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อนจริงๆ
ตอนที่ไปอากาศเย็นๆ แดดไม่แรงเลยยิ่งได้บรรยากาศมาก....พอเดินออกจากสถานีมา (ขอบอกว่า สถานีนี้ออกแบบสถานีเหมือนสถานีรถไฟฟ้าในมาเลเซียมากกกก...) ออกมาปุุ๊บเจอสถานที่ท่องเที่ยวเลย ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์อะบอริจิ้น Hot spring Museum บ่อน้ำร้อนของรัฐบาล จุดชมวิวบ่อน้ำร้อน โรงแรมที่ตั้งอยู่ก็เป็นแนวสปา และมีการต่อน้ำร้อนไปยังห้องพักให้ เพื่อนๆลองไปพักดูแล้วมาบอกได้นะครับ รู้สึกว่ามีหลายระดับราคาตั้งแต่พันๆ ไปถึงคืนละหมื่นเลยครับ
เมืองนี้ท่าทางจะเน้นต้อนรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันเป็นพิเศษ เพราะบางโรงแรมมีพนักงานใส่ชุดกิโมโนออกมาต้อนรับ ป้ายต่างๆ ก็เป็นภาษาญี่ปุ่นเยอะด้วยครับ
ที่นี่ต้นไม้เยอะ ได้บรรยากาศโรแมนติก คนไม่เยอะหนาแน่นเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ยิ่งถ้ามาในช่วงหน้าหนาว แล้วได้แช่น้ำร้อนคงมีความสุขมากๆครับ
สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้ๆกัน เดินชิวๆ รับลมชมบรรยากาศ ได้อีกอารมณ์ครับ
แต่ช่วงเย็นๆ คนเริ่มเลิกงาน ก็มาต่อคิวเข้าบ่อน้ำร้อนกันเยอะพอสมควร ดังนั้นถ้าใครอยากแช่น้ำร้อน แนะนำว่าให้มาช่วงสายๆ บ่ายๆ น่าจะดีกว่าครับ
ป.ล. เดี๋ยวบางสถานที่ ใน Xinbeitou Bearindyz จะเขียนรีวิวแยกไปอีกนะครับ.....
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)