วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทำไมถึงต้องเที่ยวคนเดียว ตะลุยโลกกว้าง

        สำหรับหลายคนอาจคิดว่าทำไมผมต้องเที่ยวคนเดียว ทำไมไม่ไปกับคุณเพื่อน คุณแฟนให้หวานแหววด้วย   บ้างก็แซวว่า "เหงาแย่ล่ะสิ "  เดี๋ยวลองมาดูกันนะครับ

1. เวลาไม่ลงตัวกันสักที  
ยกตัวอย่างเช่น  
นางสาว A  "ตัวเองเค้าอยากไปเที่ยวภูเก็ตช่วงสงกรานต์ " 
นาย B         "ที่รัก โทษที สงกรานต์ผมต้องไปกับที่บ้านน่ะครับ เอาไว้หลังสงกรานต์นะจ๊ะ"
พอถึงช่วงสงกรานต์
นางสาว A   "ตัวเอง งั้นเดี๋ยวสงกรานต์ไปลอยกระทง กันที่สุโขทัยกันสองต่อสองนะ"
นาย B        " อุ้ย โทษที วันนี้ผมมีนัดกับเพื่อนๆ ที่ทำงานน่ะครับ เอาไปช่วงปีใหม่เราค่อยไปเชียงใหม่กันนะ"

เอ่อ++ งานนี้คงมีเลิกกัน เห็นภาพรึยังครับ  การนัดหมายเวลาสำหรับคนทำงานสมัยนี้นี่ยากมาก ยิ่งโดยเฉพาะถ้าทำงานบริษัทใหญ่ด้วยแล้ว การลางาน  พักร้อนเป็นเรื่องที่ต้องแจ้งล่วงหน้านานมากกก แล้วอาจเจอกดดันจากนายใหญ่  คนที่แต่งงานแล้ว ต้องขออนุญาตคุณสามีสุดที่รักก่อน บ้างถึงขนาดต้องทำตัวดี เอาใจคุณสามีเป็นพิเศษเพื่อการขออนุญาต ดังนั้นหลายคนจึงไม่สามารถนัดไปเที่ยวกับแฟน  เพื่อนสมัยเรียน  ญาติพี่น้องได้พร้อมๆ กัน
การลุยเดียวเที่ยว เมื่อตัวเองมีเวลาว่างน่าจะดีที่สุด

2. เลือกสถานที่ไม่ได้ เพราะชอบคนละแนว

บางคนชอบแนวธรรมชาติแบกเป้ ปีนภูเขา ตะลุยป่า ว่ายน้ำในน้ำตก 10 กิโล  ในขณะที่บางคนขอช็อปปิ้งแอร์เย็นๆ แบรนด์เนมให้สบายกระเป๋า ต่อราคาให้แม่ค้าชาวจีนค้อนใส่  บางก็แนวเที่ยวตะลอนชิม กินอาหารดังประจำประเทศ ร้านไหนดัง ร้านไหนอร่อยเลิศ หมึกแดงคอนเฟิร์มต้องไปทาน ซึ่งทำให้เกิดความแตกแยก  หลายคนก็หลายแนว ยิ่งจัดทริปยาก และไม่สามารถจัดทริปได้ลงตัว
เมื่อหลากหลายแนวจนไม่สามารถจัดทริปได้ การลุยเดี่ยวเพื่อไปในสถานที่ที่ตรงกับแนวของตัวเองที่สุดน่าจะดีที่สุด

3. งบประมาณ  (เงิน) ใช้จ่าย ไม่เท่ากัน

อันนี้เป็นข้อสำคัญของผมเช่นกันครับ เนื่องจากแต่ละคนย่อมีเงินที่สามารถใช้จ่ายได้ไม่เท่ากัน บางคนสะสมกันเป็นปีๆ บางคนเงินเดือนออกเดือนเดียวเที่ยวญี่ปุ่นได้ ดังนั้น การที่จะไปเที่ยวพร้อมกับคนอื่นๆ ซึ่งอาจชอบพักโรงแรมห้าดาว  อาหารภัตตาคาร  ไปเที่ยวสถานที่ที่ค่าตั๋วแพงสุดๆที่ถึงแม้จะหารแบ่งกันแล้วก็ยังแพงหูฉีก ก็อาจเกินงบประมาณไปได้ การไปเที่ยวคนเดียวน่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับกระเป๋าในเงินเรา ซึ่งเราจะได้วางแผนการใช้เงินได้แน่นอน 

4. นิสัยพื้นฐานแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

สำหรับคนอินดี้ทั้งหลาย การที่จะไปเที่ยวพร้อมกับคนอื่นๆ กลุ่มใหญ่อาจจะเป็นเรื่องยาก เพราะอาจจะผจญกับหนูน้อยอนามัย  เจ้าหญิงแสนบอบบาง  นายแบบขึ้หงุดหงิด คุณป้าจอมโวยวายไปตลอดทริป ต้องทำใจเย็นอดทนไปตลอดทริป ซึ่งจะทำให้ทริปการท่องเที่ยวของเราหมดสนุก 

5. เข็คราคา กับรายการเที่ยวของบริษัททัวร์  ไม่หวายยย

หลายท่่านคงชอบที่จะเช็คบริษัททัวร์  แต่บางทีพอเช็คไปแล้วพบว่า  เป็นรายการทัวร์นรกเบรคแตก กล่าวคือ พาไปเยอะจริงแต่ว่าเร็วปานสายฟ้าแลบ ชะโงกทัวร์ ถ่ายรูปสิบห้านาทีแล้วเรียกขึ้นรถ  ต้องเดินตามดูไกด์ต้อยๆ ห้ามแตกแถว ห้ามแวะไปดูอย่างอื่น ไม่งั้นโดนตี (เอ๊ย ไม่ใช่ โดนตามให้เข้าแถว) บางรายการก็พาไปในสิ่งที่เราไม่อยากไป  แถมบวกราคามาแบบสองเท่าช่างแตกต่างกับการวางแผนเดินทางเองเสียนี่กระไร

6. ข้อสุดท้าย  ถ้าไม่ไปกับคนอื่น  แล้วเรายังอยากไปไหม
ผมมักใช้ข้อนี้ถามตัวเองเสมอๆ ว่า   เรายังรอคนอื่นๆให้พร้อมได้ไหม  งบประมาณเราพอจะเดินทางร่วมกับคนอื่นๆได้ไหม   เราสามารถไปกับบริษัททัวร์ได้รึเปล่าว มีสถานที่ที่เราชอบไปไหม  เมื่อถามตัวเองให้ชัด  ถ้าไม่ไปตอนนี้แล้วเราจะไปตอนไหนหว่า  คำตอบที่ได้คือ  ไปเที่ยวคนเดียวดีกว่า

เมื่อพิจารณาในหลายข้อๆแล้ว  ผมจึงมักตัดสินใจเดินทางคนเดียว ลุยเดี่่ยวในหลายๆ ประเทศ แต่บางทริปก็มีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยครับ เพื่อนๆลองใช้ไปแนวทางในการตัดสินใจเดินทางดูนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น: