River City inn ที่พักราคาประหยัด ใจกลางเมืองสิงค์โปรครับ ผมไปได้ชื่อโรงแรมนี้มาจากหลายรีวิวว่าถูกดี สะอาดและอยู่ใจกลางเมือง เลยไปจองสำหรับพักที่สิงค์โปร์ครับ 3 คืน คิดผมมาสองพันกว่าครับ ที่พักในสิงค์โปร์นี่ต้องทำใจเรื่องราคาครับ ระดับห้องพักรวม dorm room นอนรวมก็ 600++
โรงแรมระดับสามดาว สี่ดาว ก็ประมาณสามพันอัพเช่นกันครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็ตามครับ
การเดินทาง
ถือว่าสะดวกสบายมากครับ อยู่ใกล้ย่าน Clark quay ออกจากสถานีรถไฟฟ้า Clark quay แล้วข้ามถนนมาอีกฝั่งนึง ข้ามสะพานลอยมาก พอลงจากสะพานลอยแล้วเลี้ยวขวา ให้เดินไปในซอยประมาณ 50 เมตร สังเกตว่าในซอยนั้นจะมีเซฟเว่นอีเลฟเว่น โฮสเทลจะอยู่ในซอยนั้นครับ
ในซอยจะเป็นตึกแถวยาว ต้องสังเกตป้ายชื่อหน่อยนะครับ เพราะว่าที่นี่ป้ายชื่อโรงแรมจะเล็กครับ สังเกตว่าที่นี่่ป้ายโรงแรมหรือป้ายร้านค้าต่างๆเขาจะไม่ทำใหญ่มากครับ หายากหน่อยแต่ก็ทำให้บ้านเมืองเขาไม่ดูรกรุงรังครับ
พอถึงแล้ว เหนื่อยนิดหน่อยแบกเป้ขึ้นไปชั้น 4 รู้สึกว่าชั้น 3 จะเป็นอีกโฮสเทลอีกแห่งนะครับ พอถึงชั้นสี่ ผมก็หอบแฮ่กๆ ก็เห็นป้ายโฮสเทลชัดเจนครับ ประตูเป็นกระจก
มีคนเดินออกมาเปิดให้ หนุ่มสิงค์โปร์..หล่อโฮก ยิ้มหวาน พร้อมแจ้งว่าด้านหน้าจะมีกล่องใส่รองเท้าให้คุณเก็บไว้เพื่อสุขอนามัย ที่นี่เขาห้ามไม่ให้คุณเอารองเท้ามาใส่เข้าไปนะครับ
ความสะอาด
ภายในความสะอาดมากพื้นมันวาว ภายในเคาน์เตอร์ก็มีเจ้าหน้าที่มาต้อนรับก็แบบเป็นกันเอง มีป้ายการันตีคุณภาพว่าได้รับการยอมรับคุณภาพจากหลายสถาบัน และเห็นมีป้ายโชว์และวางเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศด้วยครับ สำหรับเจ้าหน้าที่ต้อนรับผมมคิดว่าเขาน่าจะจ้างฝรั่งมาสลับกันดูแลนะครับเพราะเห็นว่าแต่ละวันหน้าตาไม่ซ้ำกัน ขั้นตอนการเช็คผมยื่นจดหมายจองที่ได้รับทางอีเมลลืและแสดงพาสปอร์ตก็เรียบร้อยครับ อ้อ เขาจะเก็บค่ามัดจำกุญแจล็อคเกอร์ไว้ด้วยนะครับ พอวันเช็คเอ้าท์เขาก็คืนเงินให้ครับ
เขาพาไปชมรอบๆ พร้อมกับบอกกฏระเบียบเบื้องต้น ฟังออกบ้าง ฟังไม่ออกบ้าง เขาถามมา ตอบได้บ้าง เอ๋อ...ไปสิบวินาทีบ้าง
ล็อคเกอร์
เขาจะให้กุญแจล็อคเกอร์ สำหรับเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า ถ้ากระเป่าเราใหญ่มาก ยัดไปในล็อคเกอร์ไม่ได้ เขาก็จะหามุมเก็บกระเป๋าใหญ่แล้วแนะนำให้เราเอาเสื้อผ้าและของใช้บางส่วนมาเก็บไว้ในล็อคเกอร์
เตียงนอน
เขาจะบอกเบอร์เตียง พร้อมพาไปดู เป็นห้องเตียงนอนรวม 26 เตียง ผสมกันชายหญิง เตียงวางกันชิดทีเดียว แต่ชั้นล่างเขาจะมีผ้าม่านรูดเปิด-ปิดให้มิดชิดขึ้นครับ แต่เตียงบนไม่มีผ้าม่านปิดนะครับ
บนหัวเตียง จะมีไฟเล็กให้สำหรับคุณอ่านหนังสือและรูปลั๊ก1 อัน สำหรับท่านที่จะเตรียมปลั๊กรางมา ผมไม่แน่ใจว่าเขาให้ใช้รึเปล่าวนะครับ เพราะเคยมีคนโพสต์ว่าเขาไม่อนุญาตให้เสียบปลั๊กรางต่อ เพื่อความปลอดภัย
ห้องนั่งเล่น
มีโซฟาใหญ่ล้อมรอบ เห็นชอบมีฝรั่งมานอนหลับคาโซฟาบ่อยๆ น่าฉงฉาน มีหนังสือนวนิยายภาษาอังกฤษ คุณสามารถหยิบไปอ่านได้ แต่ถ้าดึกไม่มีคนมานั่ง เขาก็จะปิดไฟครับ
โต๊ะอาหาร
มีโต๊ะอาหารขนาดสี่ที่นั่ง ตั้งอยู่ตรงกลาง มีไมโครเวฟ กาแฟ โอวัลติน มีเตรียมไว้ให้ เครื่องกดน้ำร้อนน้ำเย็นใช้ได้ตามสบาย แต่ว่าแก้วน้ำ จานชาม ใช้แล้วต้องล้างให้เรียบร้อยเองนะครับ
ตอนเช้าจะมีอาหารเช้าตั้งไว้ คือกาแฟแบบซอง ขนมปัง แยม และกล้วยหอม กรุณาบริการตัวเอง กินได้ตามกระเพราะของคุณ จะตั้งไว้ตั้งแต่หกโมงเช้าพอสัก 10 โมงก็เก็บมั้ง (ไม่แน่ใจ เพราะผมออกเที่ยวแต่เช้าทุกวัน)
ห้องน้ำ
อันนี้ต้องบอกว่าเหมือนห้องน้ำตามฟิตเนสมากๆ ครับ แยกกันระหว่างห้องอาบน้ำและห้องน้ำ ห้องอาบน้ำจะเป็นแบบฝักบัวติดบนเพดาน เปิดมาทีไรตกใจน้ำไหลอย่างกับน้ำตก แล้วในห้องน้ำมีเจลอาบน้ำกับยาสระผมมาให้ดู ผมกดใช้โดยแทบไม่ต้องใช้ของส่วนตัวที่เตรียมมาเลยครับ ประหยัดดี อิอิ
แต่ที่ผมไม่ค่อยชอบคือห้องสุขาครับ เพราะเล็กๆน่ะครับ เขาไปนั่งแล้วแทบพอดีตัวผมเลย แต่สำหรับผู้หญิงน่าจะโอเคนะ
ส่วนคุณผู้หญิงที่สระผมไม่ต้องห่วงครับ เขามีมุมเล็ก ตั้งกระจกและเสียบไดร์เป่าผมไว้ให้ครับ แต่รู้สึกจะมีอันเดียวนะครับ
สำหรับที่ River City Inn นี่ถือว่าเป็นที่พักราคาประหยัด แล้วได้คุณภาพที่โอเคน่ะครับ ซึ่งต้องยอมรับว่าสิ่งต่างๆไม่เทียบเท่ากับโรงแรมปกติน่ะครับ ดังนั้นต้องทำใจในหลายเรื่องครับ แต่เจ้าหน้าที่ต้อนรับที่นี่พูดจาดีมากครับ ยกเว้นวันสุดท้ายตอนเช็คเอ้าท์ผมไปเจอยายวัยรุ่นผมทอง นางดูเชิดๆหยิ่งๆ แปลกๆ แต่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆดีมากครับ