ทริปประเทศไต้หวัน ทริปนี้ค่อนข้างตัดสินใจลำบาก เพราะว่าเป็นประเทศที่คำนวณค่าใช้จ่ายแล้วน่าจะแพง ขนาดเพื่อนต่างประเทศยังเล่าให้ฟังว่าแพง แถมช่วงนั้น BearIndyz กระเป๋าสตางค์แบนมากๆ
- จะต้องทำวีซ่าเป็นเรื่องเป็นราว
- ไหนกังวลเรื่องเงินทอง
- พูดภาษาจีนไม่ได้สักคำ
- ปกติไปแต่ประเทศเพื่อนบ้าน ครั้งนี้อุตริบินไปไกลเชียว
- วัฒนธรรมต่างๆจะแตกต่างจากบ้านเรามากไหม
- มีคนบอกว่าอาหารไต้หวันจืดสนิท ทานไม่ลงเลย จริงป่ะเนี่ย
สำหรับตั๋วเครื่องบินหลังจากเสิร์ชถาม Google หาแล้วพบว่ามีสายการบินไปไต้หวันน้อยม้ากก และไม่มีแอร์เอเชีย สายการบินราคาประหยัดเจ้าประจำด้วยครับ มีแต่ การบินไทย รักคุณเท่าฟ้า, EVA Air, Cathay Pacifiแ แล้วก็สายการบินระดับหรูหราเท่านั้น เสิร์ชหาราคาด้วยตัวเองแล้วจะเป็นลม..... บางสายการบินหมื่นแปด,บางสายการบินสองหมื่นกว่าก็มี
ดังนั้น ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่จองผ่านเอเจนซี่ซึ่งคุณเพื่อนช่วยหาราคามาให้ครับ ต้องขอขอบพระคุณเพื่อนสาวที่ช่วยหาตั๋วเครื่องบินให้ ณ โอกาสนี้
สรุปว่าได้ราคา 13,500 บาท เดินทาง 23-28 ต.ค. มีอาหารบนเครื่องให้ด้วยน้าาาา ดีใจจัง เป็นครั้งแรกที่มีอาหารทานบนเครื่องบินด้วย 555 (ปกติซื้อมาม่ากินบนแอร์เอเซีย) และได้น้ำหนักกระเป๋า 20 ก.ก. (แต่ใช้ไม่ถึงครับ แค่แบก 11 ก.ก.หลังผมก็จะหักแล้วครับ)
เมื่อตั๋วเครื่องบินพร้อม ก็เลยจ่ายเงินไปเลย (ใจร้อนอีกแล้ว) ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำวีซ่าไปไต้หวันเนื่องจากราคาตั๋วเครื่องบินปรับเปลี่ยนตลอดเลยครับ เกรงว่าราคาจะแพงขึ้นไปอีกเลยจ่ายไปเรียบร้อยเลย
การทำวีซ่า
1. รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนว 2 ใบติดในแบบฟอร์ม
2. กรอกแบบฟอร์มในเว็บไซด์
https://visawebapp.boca.gov.tw/BOCA_MRVWeb/subroot/MRVWeb0_form.jsp
มองหาคำว่า General Application
กรอกใส่รายละเอียดไปตามช่อง มีประมาณ 4 หน้า ส่วนช่องไหนที่ไม่ต้องการตอบหรือไม่ต้องการใส่ข้อมูลให้คีย์คำว่ None ไปนะครับ ตอนแรก BearIndyz เว้นว่างไว้ ปรากฏว่าระบบบันทึกไม่ได้ครับแจ้งว่ากรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน
พอกรอกเสร็จ ระบบจะทำการประมวลผล เราก็ปริ้นท์ออกมาครับ เวลาปริ้นท์จะเหลือแค่ 2 หน้าครับติดรูปถ่าย 2 นิ้วที่แบบฟอร์มครับ ตรงหัวมุมซ้าย นำไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ด้วยครับ
3. หนังสือเดินทางพาสปอร์ต ที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
7. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก ชื่อเราที่แสดงจำนวนเงินที่เพียงพอต่อการท่องเที่ยว
8. หนังสือรับรองการทำงาน
9. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน (ผมใช้เอกสารที่เอเจนซี่ออกให้น่ะครับ )
10. เอกสารการจองที่พัก (ใช้เป็นอีเมลล์ที่คอนเฟิร์มกลับมาจาก Hostelworld.com)
11. ค่าทำวีซ่า 1,500 บาทครับ
12. โปรแกรมการท่องเที่ยวในไต้หวัน (ผมก็อปปี้มาจากอินเตอร์เน็ท และปรับรายละเอียดนิดหน่อย)
ใช้เวลาพิจารณา 3 วันครับ
เอกสารทุกอย่างขอให้เตรียมตัวจริง และถ่ายสำเนาไปด้วยนะครับ เจ้าหน้าที่เขาจะตรวจสอบแล้วคืนตัวจริงให้ เก็บไปเฉพาะสำเนา ยกเว้นพาสปอร์ตจะคืนตอนวันไปรับผลครับ
ส่วนคนที่มีวีซ่า ญี่ปุ่น,อเมริกา,อังกฤษ,แคนาดา,เชงเก้น ที่ยังไม่หมดอายุ สามารถนำวีซ่านั้นใช้เข้าไต้หวันได้เลยนะครับ แต่เพื่อความไม่ประมาท ลองโทรไปสอบถามรายละเอียดดูอีกทีนะครับ เคยเห็นคนโพสต์บ้างว่า ถึงแม้จะไม่ต้องใช้วีซ่าแต่พอไปถึงที่ไต้หวันก็ต้องกรอกเอกสารบางอย่างที่สนามบินครับ
เมื่อเอกสารทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ไปยื่นด้วยตัวท่านเองที่
สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย
ชั้น 20 เอ็มไพร์ทาวเวอร์ (Empire Tower) 195 ถ.สาทรใต้ กทม. 10120
โทร : 0-2670-0200-9
แฟกซ์ : 0-2670-0220
เวลาทำการ : วันจันทร์-วันศุกร์ 09.00-16.00 น.
แผนกทำวีซ่า เปิด : วันจันทร์- วันศุกร์ 9.00-12.00 น.
นั่ง BTS ไปสถานีช่องนนทรี เดินผ่านทางเชื่อมที่จะไป BRT แต่ให้ลงฝั่งขวา ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์
เห็นม่ะ เอกสารไม่เยอะเล้ยยย......ตอนแรก BearIndyz เห็นรายการเอกสารที่จะต้องเตรียม แล้วจะเป็นลมและประหม่าว่าจะผ่านไหมเนี่ย ถ้าไม่ผ่านแล้วค่าตั๋วเครื่องบินจะคืนได้ไหมหว่า สารพัดจะวิตกกังวล เลยเผื่อเวลาในการเตรียมเอกสารล่วงหน้าเป็นเดือนเลย ทยอยตรวจสอบเอกสารที่ละอย่าง ส่วนรูปถ่ายด้วยความประหยัดเลยใช้ภาพเดียวกับตอนทำวีซ่าไปพม่าเมื่อตอนต้นปี
ตอนไปทำไปถึงตั้งแต่ 08.10 น. ก็พบว่ามีคิวแล้วประมาณ 15 คน มีทั้งนักเรียนนักศึกษาคนทำงานออฟฟิศ เจ้าหน้าที่จะเปิดประตูตรงเวลา 09.00 น. (พี่รปภ. หน้าตาดุมาก)ต้องเดินผ่านเครื่องสแกน ตรวจกระเป๋า พร้อมโชว์เอกสารเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ประตูทางเข้ากดบัตรคิวให้ครับ
ที่นี่จะมีบรรยากาศจีนตั้งแต่แรกเข้าเลย เพราะเจ้าหน้่าที่จะพูดสื่อสารกันด้วยภาษาจีน แล้วคนที่มาทำวีซ่าไปไต้หวันก็จะมีคนจีนสื่อสารกัน คุยกันผมฟังไม่รู้เรื่องเลยครับ ได้อรรถรสไปอีกแบบ อุ๊ป...ตื่นเต้นเล็กน้อย เคยแต่ดูหนังจีนในทีวีพอมาเจอบรรยากาศจริงๆท่ามกลางคนจีนเยอะๆ ทำเอาใจเต้นระส่ำ
สังเกตว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจเอกสารอย่างละเอียดเลยครับไม่เหมือนกับตอนไปขอวีซ่าพม่า เพราะเห็นเจ้าหน้าที่จะเช็คชื่อ นามสกุลในเอกสารต่างๆ แล้วมีการติ๊กทำเครื่องหมายไว้ชัดเจน คนมาทำวีซ่าหลายคน เอกสารไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่จะมีการสอบถามรายละเอียด,ขอเอกสารประกอบเพิ่มเติมด้วย แต่ก็รวดเร็วประมาณสัก 5 นาทีก็เรียบร้อยครับ ผมจ่ายเงินแล้วได้รับใบรับผลวีซ่าที่เป็นเอกสารภาษาจีนมา
อีก 3 วันก็ไปรับผลครับ มีคนมารอรับผลวีซ่ามากเช่นกันครับ ผมตื่นเต้นเป็นที่สุด... ระหว่างรอคิวเรียก ใจก็เต้นรัวเป็นกลองเลยเพราะเห็นคิวก่อนหน้าผมมีคนลุงแก่ และพระอีกรูป ตอนไปรับวีซ่าเหมือนจะมีปัญหา ยังไม่ได้รับเล่มพาสปอร์ตคืนกลับมาเหมือนถูกรอให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม อุ้ย...ขนาดหน้าจีนขนาดนั้นยังโดนเรียกสัมภาษณ์
แล้ว BearIndyz หมีชายทะเลแบบผมจะรอดไหมเนี่ย พอถึงคิวผม ผมหายใจสามรอบ เดินนิ่มๆไปที่เคาน์เตอร์พร้อมยื่นใบนัดรับผลวีซ่าให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่รับปุ๊บ ค้นหาพาสปอร์ตประมาณ 2 นาที ก็นำเล่มพาสปอร์ตมาคืนให้ ด้านในวีซ่าติดอยู่เป็นสติ๊กเกอร์มีรูปถ่ายหน้ากลมของผมติดอยู่ในเล่มพาสปอร์ตเลย เดินออกมา.....ยิ้มปากกว้างตลอดทางเลยครับ
เท่านี้ก็พร้อมแล้วสำหรับการเดินทางไปตะลุยไต้หวันแบบบุกเดี่ยว.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น