เป็นอาคารแบบตะวันออกกลาง ตอนกลางคืนจะมีการส่องไฟเป็นเฉดสีต่างๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ สวยงามไปอีกแบบครับ
ใกล้กันก็มีอาคารอีกแห่งเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานหัตถกรรมของคนมาเลเซีย มีโลโก้ I LOVE KL มีรถทัวร์นักท่องเที่ยวพาลูกทัวร์มาเที่ยวชมเยอะเลย มีร้านขายของที่ระลึก ของสวยครับ แต่ราคาก็แพงตามคุณภาพไปด้วย (BearIndyz ซื้อไม่ไหว 555)
หลังจากนั้นผมก็เดินย้อนกลับมา Central Market ที่จริงรู้สึกว่าไม่ไกล แต่หลงทางน่ะครับไปผิดทิศ เดินหลงทางอยู่นาน ที่ Central Market เป็นตลาดรวมของที่ระลึก สังเกตง่ายจะเป็นว่าวจุฬาขนาดใหญ่ และตรงนี้เหมือนเป็นท่ารถเมลล์ขนาดใหญ่ด้วย เห็นรถเมลล์วิ่งมารวมกันหลายคัน มีทั้โซนที่เป็น Outdoor และ Indoor ภายในขายของที่ระลึก เสื้อยืด พวงกุญแจ (ราคาปานกลาง แต่คุณภาพสินค้าดูดีนะ ค่อนข้างเป็นดูดีกว่าตลาดทั่วไป) ผมได้ของที่ระลึกมาพอสมควร
ชั้นบนมี Food Court ไม่ใหญ่มากนัก (มีร้านตัดผมด้วยเห็นราคาแล้วแพงพอๆกับร้านหรู แถวสยามบ้านเราเลย)
จากนั้นผมก็นั่งรถไฟฟ้ามาลง chinatown ซึ่งใกล้สถานีมีวัดจีน ได้ไปไหว้ขอพร แล้วเดินต่อมาอีกนิดเลี้ยวขวา ตรงสามแยกไฟแดงก็มาถึงย่านไชน่าทาว์น เป็นย่านที่มีร้านค้าขายคนจีนแนะนำว่าให้มาตอนเย็นดีกว่า จะมีร้านอาหารตั้งขายของกินมากมาย มาตอนกลางวันยังไม่ค่อยมีอะไร ผมได้เสื้อยืด ลายที่ระลึก KL ตัวละ 80 -120 บาทที่นี่ หูฟังเส้นละ 150 (สวยดี) ร้านขายหมวกแก๊ปที่นี่สวยดี ใบละ 190-250 บาท
มาดูนาฬิกาก็เป็นเวลาประมาณบ่ายสามแล้ว ยังว่างอยู่ไม่รู้ไปไหน พลังงานยังเหลืออยู่ (BearIndyz เป็นพวกบ้าพลัง) เลยย้อนกลับรถไฟฟ้าไป Bukit Bintang ไปชมตอนกลางวัน พบว่ามีร้านค้า ร้านอาหารเก่ๆ เยอะ ห้างเขาก็ใหญ่โตโอฬารอยู่ เดินไปจนถึงห้าง Suria ด้านหน้าห้างมีลานน้ำพุ ที่มีการจัดแสดงรอบหัวค่ำ
ผมเลยอยู่ที่ห้างนี้นานหน่อย สินค้าก็มีแบรนด์เนมเหมือนกับบ้านเรา หรูหราทันสมัย สะอาดตามแบบศูนย์การค้าบ้านเรา KFC ที่นี่มีซอสให้สามอย่างเลย ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ แล้ว thai chilli Sauce (อื่ม แสดงว่าซอสพริกบ้านเรามีเอกลัษณ์ใช่ม่ะ)
ส่วนเบเกอรี่ขนมปัง แบรนด์เหมือนบ้านเราครับ ไม่แตกต่างกันนัก ผมสังเกตว่าห้างที่นี่สินค้าบางอย่างจะแตกต่างจากบ้านเราบ้าง เพื่อนผมเคยได้รองเท้าลดราคาเหลือคู่ละ 250 บาทเอง
ผมเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ตอนนั้นฟ้าเริ่มมืดแล้ว เลยออกมาเดินที่ลานน้ำพุ
รวมถึงมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ภายในสวนสาธาระมี เครื่องเล่นสำหรับเด็ก ม้าโยก ชิงช้า และสวนน้ำให้เด็กๆ ได้เล่นด้วย พ่อแม่พาน้องๆมาเล่นกันสนุกสนาน รวมถึงเห็นวัยรุ่นเดินมาพักผ่อนหย่อนใจกัน ถ่ายรูปกันเยอะพอสมควร โดยเฉพาะช่วงเย็นๆ BearIndyz นั่งเล่น เดินเล่นไปเรื่อย บรรยากาศกำลังดีลมพัดเย็นสบาย
ระหว่างนั้นเอง มีหนุ่มคนนึงเดินเข้ามาพร้อมกับถามว่ามาจากไหน พอบอกว่ามาจากไทยแลนด์ หนุ่มคนนั้นกดไอโฟนพิมพ์บอกราคาว่า 1,000 พร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มๆ อะจ๊าก!!! มาเจอเสนอขายกลางลานน้ำพุเนี่ยนะ ตกใจเล็กน้อยแต่ส่ายหัวพร้อมยิ้มนิดๆบอกว่า No.... ดีนะ ที่เขาไม่ตื้ออะไร ค่อยยังชั่ว (หน้าตาผมเหมือนคนหื่นกามเหรอ ฮือ ฮือ)
ประมาณ1 ทุ่มครึ่งเริ่มแสดงน้ำพุ สวยงามทีเดียว มีความยาวประมาณ 20 กว่านาที แบ่งเป็นหลายๆตอน (แต่ตอนที่ผมไปดู เหมือนเขามีการซ่อมและเซ็ทระบบด้วย เพราะเห็นมีวิศวกรและคนงานเดินมาเช็คท่อ ปรับสายยาง อยู่หลายรอบ ระหว่างพักการแสดง)
สำหรับคืนนี้คุณเพื่อนนัดมารับที่ห้าง เวลาสามทุ่ม เล่าให้เพื่อนฟังเรื่องมีคนมากดราคาที่ลานน้ำพุ คุณเพื่อนหัวเราะใหญ่ บอกว่าไออยู่เมืองนี้มายี่สิบปี ไม่เคยเจอคนขายบริการเลย ยูมาวันเดียวเจอเลย ยินดีด้วยนะ 5555
รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะคืนนี้คุณเพื่อนว่างชวนไปค้างที่ห้อง.....ตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไรมาก
แค่เพื่อนบอกว่ามีกฏว่า เวลานอนเตียงเดียวกัน ห้ามใส่อะไรนอนนะ....เพราะไอ ไม่ใส่อะไรนอน จะได้ยุติธรรมกัน อุ๋ย !!! ซวยซะแล้วตรู หนีเสือปะจระเข้แท้ๆๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น