วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เปิดซิง (บินเดี่ยว) เที่ยวปีนัง (เกริ่นนำ)

               
              ย้อนกลับไปประมาณห้าหกปีที่แล้ว กับการเปิดซิง (บินเดี่ยว) ไปเที่ยวปีนัง ประเทศมาเลเซีย
ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่า เป็นครั้งแรกจริงๆ  เคยแต่เที่ยวภายในประเทศ นั่งรถทัวร์ รถไฟปู้น ปู้น และก็ไม่บ่อยครับปีละ 1-2 ครั้งเอง
                การบินไปปีนังเป็นเดินทางไปต่างประเทศ  ทำพาสปอร์ตครั้งแรก   ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก  มีเพื่อนต่างประเทศคนแรก  วางแผนการท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก....เรียกได้ว่า.เปิดซิงครั้งแรกกันเลยทีเดียว
                   สำหรับการเดินทางในช่วงนั้น เกิดได้บังเอิญรู้จักเพื่อนแดนไกล (อันนี้..ขอไม่เล่ารายละเอียดนะครับ.... อิอิ) ชวนไปเที่ยวปีนัง ผมเองก็เกิดเบื่อปัญหาต่างๆ อยากหนีจากบางกอก เบื่อความวุนวาย  อยากออกไปเผชิญโลกกว้าง หาที่ชาร์ตกำลังใจให้ตัวเองบ้าง
               
                    ตอนนั้นยังเป็นยุค Hi 5, MSN, Camfrog  ไม่ได้ไฮเทคเหมือนแบบนี้ ผมจึงต้องไปนั่งหาข้อมูลตามร้านอินเตอร์เน็ทคาเฟ่ เนื่องจากตอนนั้นเพิ่งย้ายหอ ไม่ได้เอาคอมพิวเตอร์มาจากที่บ้าน หอพักเองก็ยังไม่มีอินเตอร์เน็ท ทำให้ทุลักทุเลพอสมควร แต่เมื่อใจมันฮึกเหิม อะไรก็ฉุดไม่อยู่  หนังสือท่องเที่ยวที่เน้นเฉพาะเมืองปีนังก็ไม่มี  มีแต่สถานที่ท่องเที่ยวโดยรวมประเทศมาเลเซีย มีข้อมูลเกี่ยวกับปีนังน้อยมาก ไม่กี่หน้าเองและยังมีราคาแพงอีกต่างหาก 
       ผมจึงใช้เวลาว่างๆ เข้าไปนั่งเล่นเน็ทหาข้อมูลตามกูเกิ้ล แล้วปริ้นท์มาทีละใบสองใบ  เสาร์อาทิตย์ก็นั่งอ่านไปเรื่อยๆ สะสมจนได้ปึกกระดาษใหญ่ๆ เลยทีเดียว  บางทีก็เอาสมุดปากกาไปนั่งจดกันที่ร้านเน็ทเป็นเด็กนักเรียน ท่ามกลางเหล่าเด็กๆที่มานั่งเล่นแรคนาร็อค 
            เวลาคุยกับใครที่เขาเคยไปเที่ยวต่างประเทศก็สอบถามว่าเขาเคยไปปีนังรึเปล่าว หรือว่ามาเลเซียเป็นอย่างไรบ้าง สอบถามคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย เก็บเกี่ยวข้อมูลไปเรื่อยๆน่ะครับ
                     เริ่มต้นทำพาสปอร์ตที่ตึกเยื้องๆกับเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ไปตั้งแต่เก้าโมง ได้ทำตอนบ่ายครับ   แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่าย้ายที่ใหม่แล้วนะครับ ลองไปค้นหาข้อมูลดูกันอีกทีนะครับ   ซึ่งเมื่อได้พาสปอร์ตแล้ว  ผมก็ทำการจองตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียล่วงหน้า 4 เดือนได้ราคาไปกลับ สามพันนิดๆ

                    ปีนังเป็นเมืองเล็กที่ได้รับการอนุรักษ์เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม อาคารบ้านเรือนได้รับอิทธิพลแบบไชนิสโปรตุกีส มีบ้านเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก  ผสมผสานหลายเชื้อชาติ มีวัดจีนสวย  Penang Hill  อาหารจีนอาหร่อยๆ.และอื่นๆอีกมากมายก่ายกอง..สรุปว่า..เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมน่ะครับ

                    ซึ่งเป็นแนวที่ผมชอบอยู่แล้ว   เมืองปีนัง ผมเคยได้ยินชื่อมาตั้งนานแล้ว ว่าอยู่ในประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านเรานี่เอง (แต่เคยมีเพื่อนบางคนบอกว่า ไม่ใช่ที่เดียวกับตลาดปีนัง ในกรุงเทพฯ       เหรอ.....เอ่อ ) เลยเบาใจไปนิดนึงว่าไม่ไกลจากบ้านเรามาก   เคยได้ยินในละครไทยย้อนยุค หลายเรื่องตระกูลเจ้าคุณปู่ชอบส่งลูกหลานไปเรียน  ท่านเจ้าคุณจบมาจากปีนัง   นางเอกแสนหวานไปอยู่โรงเรียนประจำที่ปีนัง  แสดงว่าปีนัง สมัยก่อนนี่น่าจะเจริญรุ่งเรืองมาก เมื่อก่อนคนไทยรวยๆ ถึงได้ส่งลูกหลานไปเรียนที่นั่นกันหมด

               
                พร้อมกันนั้นผมหันมาทบทวนภาษาอังกฤษฉบับเร่งด่วน เพราะแทบไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมานานหลายปี โดยเฉพาะทักษะการพูดและการฟัง  ช่วงนั้นขยันมากกกกก
                 ท่องแต่คำว่า  Hello, how r u?  How much? ......good night, good bye ได้แค่ประมาณนั้นครับ คำศัพท์ สำนวนอังกฤษอะไรเนี่ย ไม่ต้องมาถามเลยครับ เลือนหายคืนครูบาอาจารย์ไปนานแล้ว รวมถึงไม่เคยใช้กับชาวต่างประเทศจริงๆ จัง  ต้องหาตำราภาษาอังกฤษมานั่งทบทวน
พร้อมกับกังวลว่า ถ้าเกิดเจอคนที่นั่นพูดอังกฤษมา จะฟังไม่ทัน
                  อีก 4 เดือนแล้วสินะ ที่จะขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต , ครั้งแรกกับการแบกเป้ไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว
"ตรูจะไปขึ้นเครื่องบินยังไงหว่า?
จะพูดคุยกับเขารู้เรื่องไหมอ่ะ?
เงินที่เตรียมไปจะพอใช้รึเปล่าว?
ถ้า ต.ม. ถามจะตอบว่ายังไงอ่ะ ?
ถ้าเพื่อนไม่มารับหรือพาเที่ยว จะไปเองได้รึเปล่าว?"
                 ความวิตกกังวล ความกลัว ความสับสนเข้ามาพร้อมๆ กันแบบรุมสกรัมทันที  ตอนแรกๆก็เครียด ก็เครียดมากเข้าก็เลยไม่เครียดเลยครับ  เดือนแรกนี่นอนไม่หลับกระสับกระสาย ตาปูดไปทำงานทุกเช้าเลยครับ พอใกล้ๆเดินทางกินอิ่ม นอนหลับ......เข้าใจว่ามันเครียดจนถึงขีดสุด ก็เลยหายเครียดไปเลยครับ 5555
                   แถมบรรดาคุณเพื่อนก็เป็นห่วง มาคอยให้กำลังใจกันเป็นระยะๆเช่น

" จะถูกหลอกพาไปขายตัวที่มาเลย์รึเปล่าว (เอ่อ  จะมีคนซื้อกระผมเหรอ)"
"  ระวังเขาพาไปฆ่าเอาตับไปขายแบบเมืองจีนนะเธอ "
" บินไปคนเดียวได้ยังไง ทำไมไม่หาใครไปเป็นเพื่อน (เอ่อ  ก็ชั้นชวนเธอแล้ว เธอบอกว่าไม่ไปนี่นา)"
และอีกมากมายประโยคให้กำลังใจ 

                   ซึ่งตอนนั้นความกลัว พอๆ กับ ความกล้าเลยครับ   ลังเลสับสนว่าจะยังคงเดินทางไปเที่ยวปีนังดีไหม ประกอบกับทุกอย่างเรื่องใหม่ครั้งแรกทั้งหมด  การหาข้อมูล การจองตั๋วเครื่องบิน ประกอบกับเทคโนโลยีต่างๆก็ยังไม่ทันสมัยแบบนี้ จะหาข้อมูลสถานที่เที่ยวก็มีน้อย ยังไม่ค่อยมีคนโพสต์อะไรไว้ในเว็บมากนัก เลยค่อนข้างยากลำบากพอสมควร จนเกือบจะยกเลิกการบินเดี่ยวครั้งแรกหลายครั้ง

                 แต่สิ่งสุดท้ายที่บอกตัวเองเสมอคือว่า  ถ้าไม่ไปเที่ยวต่างประเทศตอนนี้  แล้วจะไปต่างประเทศเมื่อไหร่ล่ะ... ( ปีหน้า ปีโน้น หรือปีไหนอ่ะ)
                 หรือรอให้พร้อมกว่านี้ก่อน......อะไรพร้อมอ่ะ 
   เงินพร้อม (ก็เคยคำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว ก็พอไหวนี่นา)
  ใจพร้อม (ก็อยู่ที่ใจตัวเองนี่นา)
                  เมื่อกลับมาคิดทีไร  ก็ตอบตัวเองไว้ว่า  คงต้องไปเดินทางไปแน่นอน




                  สำหรับเรื่องนี้ 20+ จริงๆครับ  ขอให้แต่ละท่านพิจารณาดูให้ดีก่อนนะ ว่าถ้ามีเพื่อนต่างประเทศชวนไปเที่ยวสมควรไปรึเปล่าว เป็นเรื่องที่ควรต้องระมัดระวังกันพอสมควร แต่เนื่องจากผมกับเพื่อนคนนี้ ตอนนั้นสนิทกับมาก และผมเองก็เตรียมข้อมูลการเดินทางไปแน่นปึ๊ก
                 จนมั่นใจว่าถ้าเกิดโดนหลอก หรือเขาไม่มารับที่สนามบินก็จะสามารถหาที่พัก  และเดินทางเที่ยวได้เอง


                 ในโอกาสนี้ต้องขอขอบคุณ www.wutekatefanclub.com  
พี่วุฒิและพี่เคท ซึ่งไม่ได้มีความรู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ได้ข้อมูลการเดินทางและแรงบันดาลใจจากบทความที่พี่คู่นี้เขียนไว้  นอกจากทริปทีปีนังแล้ว พี่ทั้งสองคนนี้ยังไดเขียนรีวิวการเดินทางไว้อีกมากมายหลายแห่ง เพื่อนๆ เข้าไปอ่านกันได้ที่ www.wutkatefanclub.com  รวมถึงนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่ผมได้อ่านรีวิวเก็บเกี่ยวความรู้ในการเดินทาง แล้วนำมาเป็นข้อมูลครับ
                แล้วมาติดตามกันต่อนะครับ ว่าการเปิดซิง (บินเดี่ยว)ครั้งแรกของผมจะเป็นยังไง



1 ความคิดเห็น:

bearindyz กล่าวว่า...

เรื่องราวผ่านมาหลายปีทีเดียว จำเกือบไม่ได้แล้วครับ