วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เที่ยวตลาดท่าเรือพลี จังหวัดชลบุรี



“ตลาดประมงท่าเรือพลี” จุดหมายใหม่ของคนรักซีฟู้ด

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว “แบบบ้านๆ” และในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ไม่ต้องการเดินทางไปไหนไกลๆ ผมมีเรื่องราวของสถานที่ดีๆ ที่น่าสนใจมาแนะนำให้รู้จัก และลองแวะไปกัน รับรองว่าคนรักอาหารทะเลจะต้องติดใจที่นี่อย่างแน่นอน


“ตลาดประมงท่าเรือพลี” คือตลาดปลาขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองชลบุรี ซึ่งตลาดแห่งนี้เกิดจากการรวมตัวของพ่อค้าและแม่ค้าอาหารทะเล ที่ได้นำอาหารทะเลสดๆ จากท่าเรือพลี ปรุงสำเร็จ และจัดเป็นตลาดนัด ซึ่งตลาดประมงท่าเรือพลีนั้นจะมีขึ้นทุกๆ วันเสาร์ ในช่วงเวลาตั้งแต่ 16.00 – 19.00 น. โดยประมาณ

ที่ตลาดแห่งนี้ สิ่งที่คุณจะได้พบคือ อาหารทะเลหลากหลายรสชาติ ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งเผาตัวโต พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด, หอยเชลล์เผาโรยชีส, ปลากะพงทอดกรอบ, หอยนางรมสด พร้อมเครื่องเคียง, ปูม้านึ่ง พร้อมทั้งขนมหวาน และเครื่องดื่มอื่นๆ อีกมากมาย และที่สำคัญคือ อาหารทุกชนิดนอกจากจะสดใหม่แล้ว ยังราคาถูก และรสชาติดีอีกด้วย ที่นี่จะจัดโต๊ะไว้ให้สำหรับผู้ที่มาเดินตลาด สำหรับนั่งรับประทานอาหารได้ตามใจชอบ และบริเวณท้ายตลาด จะมีเวที เพื่อใช้สำหรับประชาสัมพันธ์ และแสดงโชว์ให้ผู้ที่มาท่องเที่ยวได้รับชม

ตลาดประมงท่าเรือพลี ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งจากผู้คนในจังหวัดชลบุรีเอง และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ทุกๆ วันเสาร์ บริเวณตลาดจะครึกครื้นไปด้วยร้านค้า และผู้คนจำนวนมาก โดยการเดินทางไปยังตลาดประมงท่าเรือพลีนั้น สามารถใช้ถนนสุขุมวิท ตรงมาจากกรุงเทพมหานคร เมื่อถึงตัวจังหวัดชลบุรี ให้เลี้ยวขวาที่สามแยกบ้านบางทราย ตรงไปยังทางสะพานเลียบทะเลที่มีวิวและบรรยากาศดีระดับเอบวก เพียง 1.5 กม. ก็จะถึงตลาดประมงท่าเรือพลีได้อย่างง่ายดาย

ขอแนะนำอย่างแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารทะเล เพราะตลาดประมงท่าเรือพลีอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อาหารทะเลสด อร่อย ราคาไม่แพง แถมยังเป็นสถานที่บ้านๆ เหมาะกับวันชิลๆ ซึ่งที่นี่น่าจะช่วยให้วันหยุดของคุณวิเศษขึ้นได้แบบง่ายๆ เช่นเดียวกันกับการแวะไปเล่นเกมออนไลน์ที่M88main.com ที่ให้คุณใช้เวลาว่าง สนุกไปกับเกมออนไลน์หลากหลาย พร้อมลุ้นรางวัลดีๆ ได้อีกด้วย

 

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

วัด Chin swee Temple วัดจีนสวยๆบนเก็นติ้ง

 การไปบนเก็นติ้ง นอกเหนือจากห้าง สวนสนุก และคาสิโนและที่จริงบนนั้นยังมีวัดจีนอีกแห่ง ที่อยากแนะนำไปให้ทุกท่านไปเที่ยวครับ

    วัด Chin Swee เป็นวัดที่สร้างโดยคนที่ก่อตั้งเก็นติ้งขึ้นมา โดยการเดินทางก็ฟรี เพราะมีรถบริการรับส่งจากบริเวณล๊อบบี้ของ First world  Hotel เลย โดยจากบริเวณที่เช็คอิน จะมีประตูกระจกที่เป็นจุดที่รถมาจอดรับส่งคน ให้เดินออกมาที่เลนกลางนะครับ จะมีป้ายตั้งอยู่บอกเวลารอบรถรับส่งฟรี (เป็นจุดเดียวกับที่รอรถบริการฟรีไปยัง Awana hotel , Mushroom Farm)

    ตารางรถบริการ ก็ภาพนี้เลยครับ (รถจะมีบริการแค่รอบละ 1 คัน ครับ ถ้าคนเต็มแล้วจะไม่มีรถเสริมนะครับ ต้องรอรอบถัดไปเลย ควรเผื่อเวลาไปเข้าคิวด้วยนะครับ)


  รถใช้เวลาขับประมาณ 10 นาที พาลงมาด้านล่างเขานิดเดียวครับ ภายในวัดสวยมากเลยครับ มีหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ตระหง่าน และมีรูปปั้นเทวดานางฟ้า  นรก สวรรค์  แปดเซียน,ไซอิ๋ว

   ภายในวัดนี้มีพื้นที่กว้างพอสมควร มีมุมต่างๆให้ดู ถ่ายรูป ไหว้พระขอพร มีลิฟท์โดยสารสำหรับกดไปยังชั้นต่างๆได้ และมีรูปปั้นของคนที่ก่อตั้งเก็นติ้งด้วยครับ
   ที่นี่มีโรงแรมสำหรับคนที่สนใจจะพักค้างคืนด้วยครับ มีโซนห้องพัก
มีศาลา,มีห้องนั่งสมาธิ
    เดินถ่ายรูปจนเพลินจนเกือบไม่ทันรถรอบถัดไป (ให้รีบมาก่อนเวลารถนิดนึงนะครับ เพราะรถเขาจอดแป๊บเดียว ไม่จอดรอนานครับ)

  ป.ล. มีเรื่องประทับใจ ตอนไปไหว้พระในโยสถ์ มีคุณลุงเจ้าหน้าที่ดูแลโบสถ์เช็ดทำความสะอาดพื้นที่อยู่ ก่อนเดินเข้าไปผมก็ยิ้มให้คุณลุง คุณยิ้มตอบ ผมก็ไปยืนยกมือไหว้พระ หลับตาอธิษฐาน พอลืมตาขึ้นมา พบว่าคุณลุงไปจุดธูป พร้อมกับมาให้ผมไหว้ 
         และบริเวณทางเดินมีคนงานกำลังเช็ดทำความสะอาดรูปปั้น  ทุกคนเวลาเห็นผม เขายิ้มทักทายให้พร้อมก้มหน้าเชิงทักทาย คนเรายิ้มให้กันเป็นสิ่งดีๆที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่ ยิ้มกันเยอะๆ นะครับ




























 

Genting เมืองในสายหมอก รอบที่4

      ครั้งนี้คงถือว่าเป็นแค่การบันทึกเรื่องราว การท่องเที่ยวทริปเล็กๆ  ไปยังเก็นติ้ง genting เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมเคยไปมาแล้วหลายครั้งครั้งล่าสุดไปประมาณ 3 ปีแล้ว   โดยมีเพื่อนขับรถวกวนขึ้นบนภูเขาพาไป

    ครั้งนี้ผมเดินทางเอง โดยขึ้นรถบัสจาก KL Sentral มีรถบัสออกแทบทุกชั่วโมงครับ ราคารถบัสประมาณ 11 RM หรือถ้าเพื่อนอยู่ใกล้ 1 utama ก็ไปซื้อตั๋วที่ Utama ได้เช่นกัน ราคาแทบไม่ต่างกันครับ   แต่แนะนำควรไปเผื่อเวลาเดินทางนะครับ เพราะบางรอบเวลาที่เป็นช่วงพีคก็มีเต็มได้เช่นเดียวกัน
    ในการซื้อตั๋วเราจะได้ตั๋วมาสองใบ ใบแรกสำหรับรถบัส ใบที่สองสำหรับกระเช้า (ก่อนไปควรเข้าไปเว็บข่าวการซ่อมบำรุงกระเช้า เพราะเขาซ่อมปรับปรุงเป็นประจำโดยเฉพาะก่อนเป็นช่วงหยุดยาว)

   รถบัสใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึงสถานีกระเช้าครับ แล้วเราก็เดินขึ้นไปชั้นบน แสดงตั๋วกระเช้ากับพนักงานได้เลย  กระเช้าจะวนมาตลอดสาย เราชอบคันไหนก็เลือกขึ้นนั่งได้เลย (แต่ถ้าช่วงที่คนมาเที่ยวเยอะ พนักงานนเขาจะรีบๆจัดให้เรานั่งรวมๆกับคนอื่นๆ เพื่อเร่งระบายคนครับ  ถ้าช่วงนักท่องเที่ยวไม่เยอะ คิวรอไม่ยาว เขาก็ปล่อยๆให้เลือกกระเช้ากันเอง)

  
      วิวสองข้างทางยังคงสวยงาม กระเช้าค่อยๆเคลื่อนขึ้นด้านบนผ่านธรรมชาติลมเย็นพัดแรงลอดผ่านช่องลมด้านบนของกระเช้าครับ ได้ยินเสียงนกร้อง ว้าว ....เย็นสบายมากเลย
   กระเช้าที่นี่ก็ถือว่าคุ้มด้วยครับ เพราะว่าใช้เวลานานทีเดียวประมาณ 30 นาที ได้เห็นวิวสวยๆ นาน ไม่เหมือนบางที่




        พอไปถึงก็เชื่อมเดินต่อเข้าไปเที่ยวห้างได้เลย แต่ว่าภายในส่วนห้าง ก็เหมือนๆเดิมกับทริปก่อน บอกเลยว่าแทบไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย ซึ่งเริ่มเป็นข้อเสียของเก็นติ้ง โดยเฉพาะโซนสวนสนุกภายใน เครื่องเล่นโดนย้ายออกไปกลายเป็นร้านค้ามาเพิ่มเติม ยิ่งทำให้บรรยากาศเหงาหงอยไปอีก  ภายในมีโซนเครื่องเล่น (เหมาะกับเด็กเล็ก) ร้านอาหาร คาสิโน โรงหนัง  ลานกิจกรรม(ซึ่งจะมีโชว์ในวันเสาร์ อาทิตย์ หยุดนักขัตฤกษ์) โรงละครซึ่งตรงนี้ยังเป็นจุดพิเศษเพราะมีจัดคอนเสิร์ตจากนักร้องที่มีชื่อเสียง ที่หาชมได้ยาก ทำให้บรรดาแฟนคลับต้องมาชมที่นี่
   
      ส่วนสวนสนุกด้านนอกที่มีการปิดปรับปรุงมาหลายปี  ดูจากวี่แววแล้วคงอีกนานแน่ๆเลย เพราะว่ายังเป็นลานดินโล่งๆ มีปิดแผ่นป้ายล้อมรอบพื้นที่  
   พอมองจากโรงแรมลงมา ก็พบว่าภายในพื้นที่ยังไม่ได้มีการก่อสร้างใดๆ เลย แค่เอาโครงสร้างสวนสนุกเดิมออกเฉยๆ











    อากาศที่นี่ยังคงเย็นสบาย พอฝนตกก็มีหมอกลง เหมือนอยู่บนดอยบ้านเราเลยครับ
     พอตะวันเริ่มลับฟ้า สายหมอกก็เริ่มลงพร้อมกับอากาศที่เย็นลงเรื่อยๆ จนช่วง1 ทุ่มประมาณ 16 องศาได้ ก็ยังถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศ จากความร้อนในตัวเมือง ไปเย็นกับอากาศบนภูเขาสูงครับ

คำแนะนำสำหรับการมาเที่ยวที่นี่
1.เตรียมเสื้อแขนยาว แจ็คเก็ตมาเผื่อหน่อย เพราะว่ามากี่ครั้งก็ยังหนาวเสมอ ฝนตกบ่อย พอฝนตกจะยิ่งหนาวเย็นมากครับ
2. ถ้ามาช่วงวันหยุดหรือเทศกาล ควรมาแต่เช้า หรือเผื่อเวลาไว้เพราะคนก็ยังมาเที่ยวเยอะ ทัวร์มาลงเพียบบ ซื้อตั๋วไปกลับเตรียมไว้เลย
3.ราคาอาหารที่นี่ก็พอๆกับห้างทั่วไปใน KL  ไม่แพงมากครับ
4.ถ้ามาพักโรงแรม First world แต่ละชั้น บริเวณก่อนจะถึงลิฟท์จะมีจุดกดน้ำดื่มมีทั้งแบบน้ำร้อน และอุณหภูมิปกติ เตรียมกระบอกน้ำมาเผื่อก็ดีนะครับ ประหยัดเงินไปได้เยอะเลย