เสพงานศิลป์ ที่ Seoul Museum of Art

Royal Oshaร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ เมนูอาหารแสนหรู

               Bearindyz ได้มีโอกาสไปทานอาหารร้าน Royal Osha เพราะคุณเพื่อนพาไป ไม่งั้นคงไม่มีโอกาสกินหรูระดับนี้   ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ผ่านจากตึก All Season ไปอีกนิดเดียว อยู่ฝั่งด้านซ้ายครับ  ตั้งอยู่ที่ตึก Royal residence Park ที่นี่มีอาคารจอดรถสะดวกสบาย ภายในร้านตกแต่งอย่างหรูหรา สีทอง จำนวนโต๊ะไม่มากนัก บรรยากาศเงียบเรียบหรู  การบริการทุกอย่างดีงานมาก  ที่นี่เสิร์ฟเป็นคอร์ส มีเมนูให้เลือกเยอะพอสมควรครับ   

       เมนูเป็นอาหารไทยที่มีการเลือกสรรคัดเลือกวัตถุดิบ ส่วนผสม และการตกแต่งจานอย่างวิจิตรพิศดาร  แต่ละจานก่อนเสิร์ฟ พนักงานจะอธิบายรายละเอียด เรื่องราวความเป็นมาต่างๆ  อาทิเช่น 

กุ้งโสร่ง ร้านนี้จะใช้หมีภูเก็ตพันรอบกุ้ง เนื่องจากมีรสชาติเส้นที่เฉพาะตัวแตกต่างจากหมี่ของที่อื่นๆ   

ปลาหมึกผัดซอสไข่เค็ม ก็ใช้ไข่เค็มไชยาที่มีรสชาติความเค็มที่ลงตัวไม่เค็มมากเกินไป

และไฮไลท์สุดพิศดาร คือเมนูต้มยำกุ้ง ที่นำน้ำต้มยำใส่ในหลอดแก้วด้านล่าง จากนั้นพนักงานเสิร์ฟพ่นไฟให้น้ำต้มยำเดือดพุ่งไปยังหลอดแก้วด้านบนที่ใส่เครือ่งต้มยำ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดเพื่อให้ผสมกัน แล้วดับไฟอีกครั้ง เพื่อให้น้ำต้มยำที่ผสมแล้วไหลย้อนลงมาด้านล่าง ก่อนเสิร์ฟราดบนตัวกุ้ง  โอ้ว  ช่างมหัศจรรย์พันลึกจริงๆ สมแล้วที่เป็นร้านมิชลินสตาร์

   
  แต่ขอบอกว่ารสชาติอาหารอาจจะไม่จัดจ้านจี๊ดแซ่บแบบร้านไทยแท้ๆ แต่ก็ไม่ได้จืดชืดแบบร้านฝรั่งจ๋าครับ  ใครมีโอกาสไปลอง แวะบอกกันบ้างนะครับ

ตะลุยดินแดนเทพนิยาย ที่ Fairy Tale Village อินชอน

        ย้อนวัยความเป็นเด็ก เข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ ของเทพนิยายและนิทานเรื่องต่างๆ ที่ Fairy Tale Village  ที่เมืองอินชอน

     การเดินทาง นั่งรถไฟฟ้ามาที่สถานี Incheon  ห่างจากใจกลางเมืองโซล ประมาณ 1.30 ชม. 

     พอเดินออกมาจากสถานี จะเจอไชน่าทาวน์ เห็นประตูทางเข้าจีนสีแดงชัดเลยครับ จากนั้นเดินขึ้นไปในภายในไชน่าทาวน์ จะมีป้ายบอกทางไป Fairy Tale Village  หรือลองค้นหาคำว่า  송월동 동화마을  เดินไปเรื่อยประมาณ 10-15 นาที

         จะเจอป้ายสีสันสดใสครับ  เป็นภาพลายการ์ตูน น่ารัก เต็มถนน และซอยเล็กซอยน้อย ตามบันได หน้าต่างประตูก็มีภาพการ์ตูนน่ารักมากครับ กดถ่ายรูปเพลินมากเลย

            ภาพการ์ตูน และเทพนิยายจะมีทั้งนิทานอีสป  การ์ตูนชื่อดัง วาดในหลากหลายแบบ หลายสไตล์ ให้เพื่อนๆ ได้ถ่ายรูปสนุกสนานแน่นอนครับ  

             ที่นี่เป็นถนนตามปกติ ไม่มีเวลาเปิดปิดแนะนำไปตอนเช้าๆ หน่อยนะครับ เพราะช่วงสายๆหรือวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวเยอะเลยครับ 
            ที่นี่ยังเป็นพื้นที่ที่ยังมีคนอยู่ตามปกติ ดังนั้นใครไปเที่ยวช่วงเช้าก็อย่าส่งเสียงดังมากนะครับ เกรงใจชาวบ้านที่นั่น  
              อ้อ ! เวลาถ่ายรูป อย่าถ่ายเพลินเกินไปนะครับ บางภาพจะอยู่ติดถนนใหญ่ ดังนั้นระมัดระวังรถที่วิ่งผ่านไปมาด้วยนะครับ 
              

Seodaemun Independence Park ชมสวนประกาศอิสรภาพและคุกนักโทษ

       Seodaemun Independence Park  เป็นสวนสาธารณะริมถนน พื้นที่ไม่กว้างมาก(เมื่อเทียบกับสวนสาธารณอื่นๆในโซล)   ซึ่งเมื่อก่อนเป็นพื้นที่ค่ายกักกันไว้สำหรับควบคุมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง  

         นักโทษการเมืองต่างๆ นำมาจับขัง ทรมาน บีบให้สารภาพหรือขังลืมที่นี่  หรือประหารชีวิตที่นี่เป็นจำนวนมาก  ต่อมาได้มีการนำมาปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะ  โดยในสวนสาธารณะนี้รูปปั้น  และประตูประกาศอิสรภาพ เดินชมเล่นๆ รับลมเพลิน เห็นมีคนแก่เกาหลีและครอบครัวมานั่งพักผ่อนกันครับ 

    และมีฟากหนึ่งของสวนสาธารณะ มีคุกนักโทษการเมืองอยู่ด้วย  Seodaemun Prison History Museumตั้งอยู่ฝั่งอีกด้านหนึ่ง เก็บค่าบัตรเข้าชม  ในจุดนี้มีนักท่องเที่ยวและนักเรียนเกาหลีมาเข้าชมเป็นจำนวนมาก

    ภายในเป็นอาคารห้องขังเก่าจัดแสดง การกักขังนักโทษที่ห้องเล็กนิดเดียว วิธีการทรมาน ภาพถ่ายนักโทษที่โดนทรมานที่นี่ ดูแล้วก็เศร้าใจ รู้สึกหดหู่พอสมควรครับ
    

การเดินทาง 
Dongnimmun Station สาย 3 และเดินไปยังทางออกที่ 4
ค่าบัตร 3000 KRW
(โซนสวนสาธารณะเข้าฟรี )
ใช้เวลาเดินชม ทัังโซนสวนสาธารณะและคุก ประมาณ 2 ชั่วโมงได้ครับ

 เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปชมมากนัก  ส่วนใหญ่ที่สังเกตจะเป็นนักเรียนนักศึกษาที่โรงเรียนพามาเที่ยวชมครับ หรือเป็นคนเกาหลีเอง   ซึ่งที่นี่ทำให้เราได้ทราบประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศเกาหลีได้ดียิ่งขึ้นครับ