วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561

อยู่มาเลยเซียอย่างไร ให้ประหยัด


ขอแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตที่มาเลเซียแบบประหยัด สำหรับคนที่ตั้งใจจะใช้ชีวิตยาวๆ ที่นี่




1. 7-11, Family Mart ที่นี่ขายของแพงครับ  ไม่ได้ขายราคาปกติแบบเมืองไทยแดนสยาม  ดังนั้นถ้าอยากจะซื้อของถูก ให้ไปดูที่ 99 speed mart, KK Mart  หรือตามซุปเปอร์มารเก็ตใหญ่ไปเลย เช่น Aeon supermarket, MyDin  ราคาถูก  สินค้าไหนจัดราคาบางอย่าง ราคาถูกกว่าเมืองไทยอีก
  

2. ตู้กดเครื่องดื่ม  บางทีราคาถูกกว่า 7-11    ที่นี่จะมีตู้กดขายเครื่องดื่มตามสถานที่ต่างๆ เยอะ ทั้งสถานีรถไฟฟ้า  มุมในห้างสรรพสินค้าลองแวะไปดูกัน บางตู้ราคาถูกกว่ามากเลย
เช่น ใน KL Sentral มีตู้กดน้ำ ตรงใกล้ๆ ช่องขายบัตรรถไฟไปสนามบิน , มีสองตู้ 
ราคาเป๊ปซี่ กระป๋องละ 1 RM (ประมาณ8 บาทเอง)

3. จะซื้ออะไรอย่าใจร้อน รอโปรโมชั่นลดราคา     
สินค้าที่นี่ถ้าขายในห้างส่วนใหญ่จะตั้งราคาขายปกติไว้สูงมาก  แนะนำว่าถ้าไม่รีบร้อน รอโปรโมชั่นลด 30-70%    เช่น  เซ็ทผ้าปูที่นอนราคาปกติพันกว่าบาท แต่พอมีโปรลดเหลือ 400 กว่าบาท,
บางห้างมีโปรลดบ่อยๆ  แทบจะทุก 2-3 เดือน  เปลี่ยนแผนกสินค้าไปเรื่อยๆ

ข้อสังเกต      ห้างที่อยู่ชานเมือง โปรจะแรงมาก ลดบ่อย....ห้างดังๆแบบ KL CC แทบไม่เคยมีโปรเลย




4. จะซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ช้อน,ส้อม, จิปาถะจุกจิก  ไปที่เดียวจบ Daiso, Mr. DIY   ที่นี่การจะตามหาร้านทุกอย่าง 20 บาทแบบเมืองไทยมีน้อยมาก  และจาน ชาม ช้อนส้อมที่ขายในห้างก็ราคาแพงเว่อร์    แผนกเครื่องใช้ในครัวในห้าง ที่นี่ขายราคาแพงมาก   
ยกเว้นห้าง  Aeon ราคาย่อมเยาว์ลงมาหน่อย แต่สินค้าน้อยและค่อนข้างเก่า
      ดังนั้นไป  Daiso หรือ ร้าน Mr. DIY   มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ ในราคาที่สบายใจ ซื้อกันได้แบบชิวๆ  ที่สำคัญร้าน Daiso ที่นี่ตั้งราคาขายถูกกว่าไทยด้วยนะ 5.9 RM ประมาณ 48 บาท
     

5.การเดินทางใช้บัตร TouchNgo บัตรที่จ่ายได้สารพัดทั้งรถไฟฟ้า Monorial, LRT,MRT  รถเมลล์  ซื้อของใน7-11 ร้านขนม ร้านอาหารและอีกมากมายสารพัด สะดวกสบายจริงๆ แล้วยังได้ส่วนลดนิดนึงด้วย  ไม่ต้องไปต่อคิวซื้อตั๋วรถไฟฟ้ หรือเตรียมเงินสดสำหรับรถเมลล์ (ที่นี่รถเมลล์ไม่มีการทอนเงินนะครับ ผู้โดยสารต้องหยอดเงินลงกล่องข้างคนขับรถเอง ดังนั้น ถ้าเราหยอดเกิน เขาไม่ทอนเงิน)

  แต่การเติมเงินในบัตร TouchNgo  ต้องเช็คร้านเติม เพราะบางร้านจะโดนหักค่าธรรมเนียมด้วย ตอนนี้ที่เติมเงินไม่เสียค่าธรรมเนียม มีร้านวัตสัน

แต่ถ้าเติมเงินที่ 7-11 มีคิดค่าธรรมเนียมนะจ๊ะ เช่น เติม 10RM เงินจะถูกเติมจริงๆแต่ 9.5 RM



6.เสื้อผ้าที่นี่ ตัวเลือกร้านแฟชั่นมีน้อยมาก ทำใจได้เลย แฟชั่นไม่เท่าบ้านเรา รูปแบบการออกแบบต่างๆ จะไม่หลากหลาย  โทนสีก็จะใส่กันโทนมืด ขาว,ดำ,เทา,กรมท่า   สีสันสดใสน้อยมาก (โดยเฉพาะเสื้อผ้าผู้ชาย ) ต้องไปร้านหรูๆหน่อย ดีไซน์ถึงเก๋ไก๋

ร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายที่นี่ จะมี FOS, Brand outlet, Cotton on, Uniqlo, H&M,PDI  
Brand outlet ขายเสื้อยืดถูก โปรประจำคือ เสื้อยืด 3 ตัว 50M
โดยส่วนตัว ชอบร้าน PDI เสื้อผ้าดูค่อนข้างสวยหน่อย ราคาไม่แพง ...
Cotton on ก็สวย แต่เนื้อผ้านิ่มมากไม่เหมาะกับคนอ้วน และมีปัญหากับไซส์ XL แพทเทิร์นแปลกๆ ลำตัวกว้าง ผมใส่ได้ แต่แขนเล็กและลอยมาก เคยซื้อมาใส่ 2-3 ตัว เวลายกแขนแล้วแขนเสื้อรั้งขึ้น
 Uniqlo เช่นเดียวกัน ระวังตอนเลือกซื้อ บางแบบ ไซส์ XL เล็กมากกกแล้วมักอยู่ในซองพลาสติก ถ้าไม่มั่นใจ ลองสอบถามพนักงานขายก่อน 

ข้อเสนอแนะ ร้านเสื้อผ้าในห้างสาขาชานเมือง มักจัดโปรบ่อย หรือมีลดล้างสต๊อกแบบราคาตกใจเคยเจอ เสื้อยืดเหลือตัวละ 10 RM กางเกงขายาวเหลือตัวละ 20RM

ป.ล.เสื้อผ้าที่นี่มักมีปัญหากับไซส์ XL บางแบรนด์มีใหญ่สุดแค่ L,บางแบรนด์สัดส่วนเสื้อ XL แปลก,บางแบรนด์ ไซส์ XL ขนาดไม่เท่ากัน บางทีวางอยู่ข้างๆกัน ลายนึงขนาดXL ใส่ได้พอดี อีกลายนึงพอหยิบออกมากางดูตัวเล็กมาก

7.การเดินทาง แนะนำให้โหลดแอพ  Uber และ Grab กดเช็คราคาเปรียบเทียบก่อน  บางทีราคาแตกต่างกันเยอะ แต่แนะนำใช้ Grab ชัวร์กว่า เพราะว่า Uber ถ้าเกิดว่าระหว่างที่เราเดินทาง รถติดมาก ราคาจะมีการปรับขึ้นครับ  เวลาแอพส่งโปรโมชั่นโค้ดส่วนลดอะไรมา ก็อย่าลืมกดใช้ด้วยนะครับ   ใช้บ่อยๆก็ประหยัดไปได้เยอะ



   8. รองเท้าผ้าใบ  ที่นี่ถูก มีโปรโมชั่นบ่อย  Nike, Adidas, Puma, NB ราคาปกติก็ค่อนข้างถูกกว่าไทย แล้วพอยิ่งมีโปรลด 30-50 %  ยิ่งดีงาม บางคู่เหลือ คิดเป็นเงินไทยแค่ 1,000 บาท    ร้านรองเท้าที่นี่เยอะมาก มีเกือบทุกห้างครับ ให้เลือกสรรค เหมาะกับคนชอบใส่รองเท้าผ้าใบมาก


9. อัตราภาษี สำหรับคนทำงานต่างชาติคือ 28% เตรียมใจไว้ได้เลย คุณจะโดนหักหกเดือนแรก แต่ว่าสามารถทำเรื่องขอคืนได้ เมื่อครบหกเดือน แต่คุณต้องอยู่เกิน 182 วันก่อนนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น: